
บรรดานักลงทุนที่เผชิญกับภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในฮ่องกง กำลังหันมาปรับเปลี่ยนโรงแรมและสำนักงานเป็นที่พักสำหรับนักศึกษา เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง
คาวิส อิป ซีอีโอของเซ็นทาไลน์ อินเวสต์เมนต์ แมเนจเมนต์ (Centaline Investment Management) ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของฮ่องกง มีแผนเข้าซื้อและเปลี่ยนโรงแรมอย่างน้อย 2 แห่งให้เป็นที่พักนักศึกษาในปีนี้
เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว เซ็นทาไลน์ซื้อโรงแรมแห่งหนึ่งในย่านจิมซาจุ่ยซึ่งเป็นย่านชอปปิงและธุรกิจที่สำคัญของฮ่องกง ในราคา 180 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (23.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยราคานี้ลดลงมากกว่า 50% จากราคาเสนอขาย พร้อมทั้งจัดสรรงบอีก 20 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงเพื่อปรับปรุงโรงแรมดังกล่าวให้เป็นที่พักนักศึกษาซึ่งรองรับได้ 120 เตียง
อิปเปิดเผยว่า เธอยังมีเป้าหมายซื้อโรงแรมอีก 2 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีประมาณ 300 ห้อง ตั้งอยู่ในเขตเกาลูนและบนเกาะฮ่องกง ใกล้กับมหาวิทยาลัยท้องถิ่น แต่เธอปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่ออสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการเจรจา อิปตั้งเป้าที่จะลงทุนเปลี่ยนโรงแรมเป็นที่พักนักศึกษารวม 3,000 เตียง ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า โดยร่วมมือกับกองทุนต่าง ๆ ในเอเชีย ด้วยงบลงทุนที่คาดว่าจะสูงกว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง
สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานในวันนี้ (12 มี.ค.) ว่า แนวโน้มการเปลี่ยนโรงแรมเป็นที่พักนักศึกษาเริ่มเกิดขึ้นท่ามกลางภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งสะท้อนให้เห็นในข้อเสนองบประมาณประจำปีล่าสุดเมื่อปลายเดือนก.พ. เมื่อรัฐบาลฮ่องกงประกาศว่าจะไม่นำที่ดินเชิงพาณิชย์ออกประมูลขายในปีงบประมาณที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนเม.ย.
การตัดสินใจที่ไม่ปกตินี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายดั้งเดิมที่เคยใช้การประมูลขายที่ดินเพื่อเป็นแหล่งรายได้ของรัฐบาล โดยเฉพาะในช่วงที่ฮ่องกงต้องเผชิญกับการขาดดุลงบประมาณต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ไม่นับรวมรายได้จากการออกพันธบัตร
พอล ชาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฮ่องกง ระบุในคำแถลงงบประมาณประจำปีว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ตลาดดูดซับอุปทานที่มีอยู่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มี.ค. 68)
Tags: ตลาดอสังหาริมทรัพย์, อสังหาริมทรัพย์, ฮ่องกง