โบรกเกอร์เชียร์ “ซื้อ” หุ้นบมจ.เงินติดล้อ [TIDLOR] มองปัจจัยหนุนหลักมาจากแนวโน้ม NPL ลดลง ทำให้แนวโน้มการตั้งสำรองฯลดลงตามปด้วย คาดเริ่มเห็นการลดของ NPL และการตั้งสำรองฯตั้งแต่ไตรมาส 1/68 ทำให้ TIDLOR กลับมาโดดเด่น หลังจากระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อจนทำให้คุณภาพของลูกหนี้ในพอร์ตดีขึ้น ขณะที่ความต้องการสินเชื่อที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แนวโน้มของสินเชื่อเติบโตได้ดีในไตรมาส 1/68
ราคาหุ้น TIDLOR ช่วงบ่ายวันนี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ 15.40 บาท

นายอดิสรณ์ มุ่งพาลชล หัวหน้าส่วนนักวิเคราะห์พื้นฐาน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองว่าการปรับเปลี่ยนเกณฑ์ในการให้สินเชื่อของ TIDLOR ทำให้พอร์ตลูกหนี้มีคุณภาพดีขึ้น และส่งผลบวกต่อทิศทางของ NPL คาดว่าจะลดลงจากสิ้นปี 67 ที่ 1.81% ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผ่านมาถึงการตั้งสำรองฯของ TIDLOR ที่จะลดลงตาม คาดว่าจะเริ่มเห็นแนวโน้มการตั้งสำรองฯลดลงมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 1/68 ช่วยหนุนกำไรของ TIDLOR ได้เล็กน้อย
ขณะเดียวกัน การที่ลูกหนี้ในพอร์ตที่มีคุณภาพดีและสามารถชำระคืนหนี้ได้อย่างสม่ำสมอ ทำให้มีรายได้ดอกเบี้ยเข้ามาต่อเนื่อง ประกอบกับ รายได้ธุรกิจนายหน้าซื้อขายประกันยังเห็นการเติบโตได้ดี ทำให้เป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานของ TIDLOR ในไตรมาส 1/68 คาดว่าจะเติบโตได้ในระดับตัวเลขหลักเดียว เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน และเป็นหุ้นที่ค่อนข้างได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยลดลง ทำให้ต้นทุนการเงินลดลงตามไปด้วย
นายกรกช เสวตร์ครุตมัต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย มอง TIDLOR ยังมีโอกาสในการเติบโตจากความต้องการสินเชื่อที่ยังคงมีอยู่ค่อนข้างสูง แม้ว่าบริษัทเองจะมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ และไม่ได้เร่งการปล่อยสินเชัอมาก แต่คาดว่ายังเห็นการเติบโตของสินเชื่อในไตรมาส 1/68 ได้ราว 2-3% และคาดว่าสินเชื่อในปี 68 ได้ราว 5% ซึ่งส่วนใหญ่สินเชื่อจะเร่งการเติบโตในไตรมาส 2 และไตรมาส 4
ขณะที่ปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานของ TIDLOR ยังมาจากแนวโน้มของ NPL ลดลง ซึ่งเห็นการปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.81% ในไตรมาส 4/67 และมีแนวโน้มลดลงมาอีกเล็กน้อยในไตรมาส 1/68 จากมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” มีผลต่อค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองฯลดลงในไตรมาส 1/68 หนุนต่อกำไร โดยคาดว่ากำไรในไตรมาส 1/68 เติบโตได้ราว 6-7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเติบโตราว 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองว่าจุดเด่นของ TIDLOR อยู่ที่คุณภาพของสินทรัพย์ที่ดีขึ้นต่อเนื่อง จากการที่เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ NPL มีแนวโน้มลดลง คาดว่าไตรมาส 1/68 NPL จะลงมาต่ำกว่า 1.80% และในระยะสั้นยังมีการ write-off หนี้เสียก้อนใหญ่ ส่งผลให้ Credit Cost ลดลง เป็นปัจจัยหนุนกำไร ประเมินกำไรไตรมาส 1/68 เติบโตได้ 5-6% จากไตรมาสก่อนหน้า และเติบโตได้เกือบ 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ภาพรวมของสินเชื่อนั้นแม้ว่า TIDLOR จะค่อนข้างเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ แต่มองว่าความต้องการสินเชื่อยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ทำให้ประเมินว่าสินเชื่ออาจจะยังเติบโตได้ในระดับตัวเลขหลักเดียวในไตรมาส 1/68 และคาดว่าทั้งปีสินเชื่อจะเติบโตได้ราว 4-5%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มี.ค. 68)
Tags: Consensus, SCOOP, TIDLOR, ธุรกิจสินเชื่อ, เงินติดล้อ