
จินตนาการของการกล่าวโทษธุรกรรม Short sell ให้เป็น”วายร้ายของสังคมหุ้น” เป็นต้นตอของการทุบหุ้นรายตัวยังคงมีวนรูปมาอยู่อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด นักวิเคราะห์รุ่นใหญ่รายหนึ่งที่ยก Statement ฉบับของวันที่ 19 ก.พ.68 ระบว่าคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นชอบ แนวทางปรับปรุงมาตรการเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นผู้ลงทุนและสร้างเสถียรภาพตลาดหุ้น โดยมีเนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญที่ถูกนำมากล่าวอ้างจาก statement ฉบับดังกล่าว ดังนี้
“การกำกับดูแลการขายชอร์ต”
- ปรับปรุงคุณสมบัติของหลักทรัพย์ที่สามารถขายชอร์ตได้ ให้เป็นหลักทรัพย์เฉพาะในกลุ่ม SET100 จากเดิมที่กำหนดให้เป็นหลักทรัพย์ในกลุ่ม SET100 และ non-SET100 ที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง (คือ มี Market Capitalization เฉลี่ย 3 เดือน ไม่น้อยกว่า 7,500 ล้านบาท และมี Monthly Turnover ในรอบ 12 เดือน ไม่น้อยกว่า 2% รวมทั้งมีการกระจาย Free Float ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุนชำระแล้ว)
- กำหนดให้ใช้เกณฑ์ Uptick เมื่อจำเป็น คือ กรณีปกติสามารถใช้เกณฑ์ Zero-Plus Tick สำหรับการขายชอร์ตได้ เว้นแต่เมื่อหลักทรัพย์ใดมีราคาลดลงถึงระดับที่กำหนด (เช่น X% จากราคาปิดของวันก่อนหน้า) จึงจะต้องขายชอร์ตหลักทรัพย์นั้นด้วยเกณฑ์ Uptick ในวันทำการถัดไป”
โดยปกติทั่วไป การปรับปรุงหรือเปลี่ยนเกณฑ์ใดๆ ก็ตาม เบื้องต้นจะต้องผ่านคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้เห็นชอบก่อน แล้วจึงออกมาเป็น statement
แต่ใน statement ฉบับดังกล่าวระบุชัดเจนว่า “หลังจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง (เฮียริ่ง)ก่อนจะเสนอคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ซึ่งคาดว่าจะใช้บังคับได้ประมาณปลายไตรมาส 2 ปีนี้”
และ ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ออก statement เปิดรับฟังความคิดเห็นการทบทวนการกำกับดูแลการขายชอร์ต(เฮียริ่ง) จนถึงวันที่ 31 มี.ค.นี้
นั่นแสดงให้เห็นว่า การที่มีผู้ระบุว่า “IVL เป็นเหยื่อการ short” อาจบิดเบือนไปจากความเป็นจริง ด้วยการโยนบาปให้การที่หุ้น IVL ร่วงลงจาก 26 บาท ลงมา 20 บาท เป็นผลมาจากมาตรการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เพิ่งจะเปิดให้เฮียริ่งและยังไม่บังคับใช้เลยนั้น มาจากจินตนาการว่า short sell ได้จัดการทุบหุ้น IVL ไปเรียบร้อย
และถือเป็นการป้ายสีให้กับตลาดหลักทรัพย์ฯ และธุรกรรม short sell ที่ถูกใช้อย่างเป็นสากลทั่วโลกไม่ว่าตลาดจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงก็ตามที
ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ของการจับแพะชนแกะ และโทษ short sell พร้อมเผยแพร่ให้กับผู้ลงทุนที่ไม่รู้เรื่องพลอยเกลียดชังเครื่องมือตัวนี้ไปแบบไม่ได้ศึกษาข้อเท็จจริง เลย ทั้งๆที่ ปริมาณ short sell ในแต่ละวันมีเพียงแค่ 4% ของมูลค่าการเทรดรวมของตลาด ซึ่งตัวเลขนี้เคยสูงถึง 17-18 percent ในวันที่ตลาดหุ้นไทยเคยเป็นกระทิงในอดีต
และถ้าหากคิดว่าระบบเทรดและระบบเฝ้าระวัง (surveillance) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้นโกงได้ตรวจสอบได้ไม่จริงทั้งหมด ก็ต้องขอย้ำว่าทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ใช้ระบบของ Nasdaq ที่เป็นผู้นำเบอร์ 1 ของโลกในเรื่องนี้ ดังเช่นตลาดหลักทรัพย์ของประเทศที่พัตนาแล้วใช้กัน คือ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฯลฯ
การจะมโนอะไรควรมีหลักฐานยืนยันมากกว่ากล่าวอ้างลอยๆ ประโยคเดียว
และถ้าเรามาดูความเคลื่อนไหวราคาหุ้น IVL จะพบว่ามีความสอดคล้องกับหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันคือปิโตรเคมีทั้งในประเทศ เช่น TOP ,PTTGC ,SCC และต่างประเทศเช่น Lotte Chem เป็นต้น โดยราคาหุ้นล้อไปกับผลประกอบการและ spread สินค้า PET ที่อ่อนตัวลงมาเช่นเดียวกัน
ธิติ ภัทรยลรดี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มี.ค. 68)
Tags: SCOOP, Short Sell, ธิติ ภัทรยลรดี, มองมุมต่าง, หุ้นไทย