ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าลบ วิตกมาตรการภาษีทรัมป์ไม่แน่นอน

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นและบั่นทอนความเชื่อมั่นที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 37,008.43 จุด ลดลง 696.50 จุด หรือ -1.85% ดัชฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 24,504.80 จุด เพิ่มขึ้น 135.09 จุด หรือ +0.55% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,381.33 จุด เพิ่มขึ้น 0.23 จุด หรือ +0.01%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียร่วงลง 1.71% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.44%

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศในวันพฤหัสบดี (6 มี.ค.) ว่า เขาจะเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% ออกไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งการยกเว้นภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้กับสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA)

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากปธน.ทรัมป์ได้ประกาศเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโกออกไป 1 เดือน

สำนักงานศุลกากรจีนรายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกของจีนในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร๋คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 5%

ส่วนยอดนำเข้าในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. หดตัวลง 8.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2566 สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1%

ข้อมูลการค้าที่ซบเซาเช่นนี้อาจเป็นปัจจัยขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ขณะที่รัฐบาลจีนเพิ่งประกาศเป้าหมายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2568 ไว้ที่ “ประมาณ 5%” เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (5 มี.ค.)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 68)

Tags:
Back to Top