เงินบาทเปิด 33.79/83 อ่อนค่าจากวานนี้ ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ คืนนี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.79/83 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.76 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้อ่อนค่า ขณะที่สกุลเงินในภูมิภาคค่อนข้างทรงตัว จากราคาทองคำที่ขยับลง และข่าวที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากเม็กซิโกออกไปอีก 1 เดือน โดยการยกเว้นภาษีดังกล่าวจะบังคับใช้สำหรับสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ส่วนที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ไม่ได้เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อเงินบาทมากนัก

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องติดตามวันนี้ คือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนก.พ.

นักบริหารเงินฯ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 33.70 – 34.00 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 147.90/95 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 147.86 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0789/0792 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0784 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 33.630 บาท/ดอลลาร์
  • คลังปลดล็อกเอสเอ็มอี ดึง บสย.ค้ำซื้อรถกระบะ วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท คาดเริ่มได้ก่อนสงกรานต์มั่นใจช่วยกระตุ้นตลาดรถเชิงพาณิชย์
  • อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า กรณีที่สหรัฐขึ้นกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา เม็กซิโกและจีน ไปแล้วนั้น คาดว่าจะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อไทยคิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 20,000-25,000 ล้านบาท ส่งผลให้จีดีพีไทยลดลงไป 0.1-0.5% ส่วนการขึ้นกำแพงภาษีรถยนต์จะกระทบกับไทย 60,000-65,000 ล้านบาท ทำให้จีดีพีลดลง 0.35-0.40% ส่งผลให้จีดีพีปีนี้โตเพียง 2.6-2.8%
  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (6 มี.ค.) ตามการคาดการณ์ของตลาด และเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 6 นับตั้งแต่ ECB เริ่มวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.2567
  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศปรับลดประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของยูโรโซนในปี 2568-2569 โดยระบุว่ามีสาเหตุจากการส่งออกที่ลดลง การลงทุนที่ซบเซาอันเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายทางการค้า รวมทั้งภาวะไร้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 34% สู่ระดับ 1.314 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.283 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับ 9.810 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.2567
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 21,000 ราย สู่ระดับ 221,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 236,000 ราย
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากเม็กซิโกออกไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย. โดยการยกเว้นภาษีดังกล่าวจะบังคับใช้สำหรับสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA)
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (6 มี.ค.) โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าสงครามการค้าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะเดียวที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (6 มี.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และจากการที่นักลงทุนขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
  • นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.0% ในเดือนก.พ.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 68)

Tags: ,
Back to Top