หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งขึ้นรับ “ทรัมป์” เลื่อนเก็บภาษี-จีนออกมาตรการกระตุ้นศก.

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นดัชนีแกว่งไซด์เวย์อัพ ระยะสั้นหากดัชนีผ่านที่เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน บริเวณ 1,215 จุด โมเมนตัมจะเป็นบวกมากขึ้น ประกอบกับ Sentiment การลงทุนโดยรวมยังเอื้ออยู่ โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเลื่อนการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากผู้ผลิตรถยนต์ภายใต้ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดาออกไป 1 เดือน

ขณะที่การประชุมสองสภาของจีน แถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดหุ้นไทยฟื้น อย่างไรก็ตามคาดวันนี้ดัชนีน่าจะไม่ได้ปรับตัวขึ้นแรงเท่าเมื่อวาน สำหรับปัจจัยในประเทศติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในระยะต่อไป

โดยให้กรอบแนวรับ 1,190 จุด แนวรับถัดไป 1,173 จุด และแนวต้าน 1,215 จุด แนวต้านถัดไป 1,235 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (5 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,006.59 จุด เพิ่มขึ้น 485.60 จุด หรือ +1.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,842.63 จุด เพิ่มขึ้น 64.48 จุด หรือ +1.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,552.73 จุด เพิ่มขึ้น 267.57 จุด หรือ +1.46%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 37,654.95 จุด เพิ่มขึ้น 236.71 จุด หรือ +0.63% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,987.09 จุด เพิ่มขึ้น 392.88 จุด หรือ +1.66% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,353.57 จุด เพิ่มขึ้น 11.61 จุด หรือ +0.34

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 มี.ค.) 1,206.96 จุด เพิ่มขึ้น 29.32 จุด (+2.49%) มูลค่าซื้อขาย 50,778.04 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (5 มี.ค.) 1,410.82 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.(5 มี.ค.) ลดลง 1.95 ดอลลาร์ หรือ 2.86% ปิดที่ 66.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 มี.ค.) อยู่ที่ 4.45 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.61 แข็งค่าต่อเนื่องตามทิศทางภูมิภาค ให้กรอบวันนี้ 33.50-33.70

– ตลาดหุ้นไทยเด้งแรง! รับธีม China Play ล่าสุด “หลี่ เฉียง” นายกรัฐมนตรีจีน ประกาศลั่นกระตุ้นการบริโภคกลางเวทีประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ เตรียมพร้อมออกบอนด์ 1.3 ล้านล้านหยวน หรือกว่า 6.24 ล้านล้านบาท ภายในปีนี้ “ธนาคารกลางจีน” ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ตัวเลข PMI เดือน ก.พ. ขยับตัวเพิ่มขึ้น ส่งสัญญาณเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว มั่นใจจีดีพีปีนี้เติบโต 5% แม้เจอเทรดวอร์ หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี-แพ็กเกจจิ้งพุ่งแรง นำโดย SCC-PTTGC-SCGP-IVL-BANPU จับตาหุ้นกลุ่มส่งออก-โลจิสติกส์ และยางพารา รับอานิสงส์เศรษฐกิจจีนฟื้น

– “คลัง” ปักธง เม.ย.68 ลุยชง ครม.เคาะยกเครื่องภาษีรถยนต์ PHEV ขึง 3 เกณฑ์พิจารณาเข้ม สั่งแยกอัตราชัดกับ HEV พร้อมทบทวนภาษีแบตเตอรี่ คาดเสนอ ครม.พิจารณาไม่เกิน Q2/68

– ที่ประชุม กกร.ห่วงนโยบายทรัมป์ทำต้นทุนธุรกิจพุ่ง ชี้ไทยมีโอกาสตกเป็น 1 เป้าหมายโดนภาษีจากสหรัฐฯจากตัวเลขการเกินดุลที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แนะเร่งบูรณาการข้อมูลการค้าในทุกมิติระหว่างไทย-สหรัฐฯ กำหนดท่าทีร่วมกับภาคเอกชนในการรับมือ พร้อมคงเป้าหมายจีดีพีที่ 2.4-2.9% แม้ทิศทางเศรษฐกิจชะลอตัวชัดขึ้น เชียร์แบงก์ชาติยังมีช่องลดดอกเบี้ยอีกในปีนี้

– นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง มีแผนดูแลเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยจีดีพีไตรมาสที่ 1 ของปี 68 คาดจะเติบโตได้ 3.4% สูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส ซึ่งมาจากแรงส่งการบริโภค การท่องเที่ยว แต่จะมีปัญหาในอุตสาหกรรม รถยนต์ ที่คนขอกู้ไม่ผ่าน ซึ่งรัฐบาลพยายามเข้าไปแก้ปัญหา โดยจะนำร่องให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. เข้าไปช่วยค้ำประกัน แก่ผู้ที่ต้องการซื้อรถกระบะ เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งกำลังดูรายละเอียดข้อกฎหมาย คาดจะเริ่มได้ก่อนเทศกาลสงกรานต์นี้

 

หุ้นเด่นวันนี้

 

-BA (กสิกรไทยป ราคาพืนฐาน 26.87 บาทเรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BA จากผลประกอบการในไตรมาส 4 ปี 2567 ที่ดีกว่าที่ตลาดคาดประมาณ 18% โดยพลิกกลับมาเป็นกำไรเป็นไตรมาสแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2558 กำไรที่ดีกว่าคาดเมื่อเทียบกับปีก่อนมาจากการเติบโตของรายได้โดยเฉพาะในเส้นทางหลัก และการลดลงของราคา Jet fuel เครื่องบินในไตรมาส 4 ปี 2567 โดยรายได้เติบโตดีขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน และค่าตั๋วโดยสารที่เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน เราชื่นชอบ BA สำหรับความแข็งแกร่งของเส้นทางบินหลักที่คาดว่าจะมีการแข่งขันด้านราคาต่ำและยังได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันเครื่องบินที่ลดลง โดย BA มีการทำhedging น้ำมันประมาณ 20% เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบที่ลดลงจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นเชิงบวก ประกอบกับในไตรมาส 1 ปี 2568จะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวสำหรับสมุยซึ่งเป็นเส้นทางบินหลักของ BA

– NSL (ฟินันเซียไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 43 บาท ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 โต 16-17% y-y โดย 1QTD ยังโตได้ตามแผน สินค้าใหม่ และลูกค้าใหม่ยังเข้ามามากขึ้น และจะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญใน Food service และโรงงานชีส ที่เพิ่งเริ่ม Operate ไตรมาส 4/67 ขณะที่กลุ่มน้ำมะพร้าว/น้ำผลไม้ส่งออก จะถูกรวมรายได้เข้ามาเต็มปี สมมติฐานรายได้ปี 2568 ของเราคาดไว้ +14% และกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 600 ลบ. ถือว่า conservative และมี Upside ปัจจุบันราคาเทรด PER ต่ำเพียง 13.8 เท่า

– CPALL (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75 บาท คาดแนวโน้มกำไรปีนี้ยังขยายตัวเด่น +12%y-y แรงหนุนจากภาคการบริโภคที่ฟื้นตัว ผสานมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐฯ และปลดล็อกความกังวลการซื้อธุรกิจในญี่ปุ่น ขณะที่ Valuation ยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง โดยเทรด PE เพียง 17 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธุรกิจค้าปลีกในช่วง 10 ปีในตลาดต่างประเทศที่ซื้อขายในระดับ PE 24 เท่า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มี.ค. 68)

Tags: , , ,
Back to Top