นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ [LALIN] กล่าวว่า แนวโน้มในปี 2568 คาดว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะขยายตัวได้ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 37-38 ล้านคน เม็ดเงินการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) อัตราดอกเบี้ยที่มีการปรับลดลง ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่คาดว่าจะมีออกมาเพิ่มเติม ทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยบวกให้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะมีการฟื้นตัวได้ดีขึ้นกว่าในปี 2567 โดยบริษัทตั้งเป้าขยายตัวของยอดขายเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 4,050 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการปี 67 ท่ามกลางสภาพตลาดที่หดตัว บริษัทสามารถทำยอดรับรู้รายได้ที่ 3,696.59 ล้านบาท โดยยังคงสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้ดี รักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ราว 39% และกำไรสุทธิที่ 588.04 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ที่ 16% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของสภาวะอุตสาหกรรมโดยรวม
ในแง่ของงบดุล แสดงให้เห็นถึงสภาพคล่อง และสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราหนี้สินต่อทุนที่ปรับลดลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส และมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net D/E ratio) อยู่ที่เพียง 0.63 เท่า ณ สิ้นปี 67 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม นอกจากนี้บริษัทยังมีวงเงิน Committed Line คงเหลือเบิกจากธนาคารพาณิชย์พันธมิตรหลายแห่ง ที่สามารถเบิกใช้ได้อีกกว่า 3,000 ล้านบาท จึงนับว่าบริษัทมีสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง และแสดงถึงการบริหารความเสี่ยงทางการเงินอย่างรัดกุม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 มี.ค. 68)
Tags: LALIN, ชูรัชฏ์ ชาครกุล, ลลิล พร็อพเพอร์ตี้, หุ้นไทย