
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร (4 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงสู่เขตปรับฐาน (Correction Territory) ในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เม็กซิโก และแคนาดา
- ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,520.99 จุด ลดลง 670.25 จุด หรือ -1.55%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,778.15 จุด ลดลง 71.57 จุด หรือ -1.22% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,285.16 จุด ลดลง 65.03 จุด หรือ -0.35%
ปธน.ทรัมป์ประกาศเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 20% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอังคารที่ 4 มี.ค. นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยืนยันจะเริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทุกประเทศที่เก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.
การที่สหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน แคนาดา และเม็กซิโก ส่งผลให้ประเทศคู่ค้าทั้ง 3 ประเทศออกมาตรการตอบโต้ โดยแคนาดาประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 25% มีผลตั้งแต่วันอังคารที่ 4 มี.ค. และจีนประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ บางรายการเพิ่มอีก 10% – 15% โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ส่วนเม็กซิโกยืนยันว่าจะใช้มาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดในขณะนี้
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามการค้า ได้ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 600 จุดติดต่อกันเป็นวันที่สอง ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงสู่เขตปรับฐานในระหว่างวัน แต่ดัชนีจะลดช่วงลบก่อนตลาดปิดทำการ โดย Nasdaq ดิ่งลงไปแล้ว 9.3% จากระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในวันที่ 16 ธ.ค. 2567
ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกกังวลของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้น 3.20% แตะระดับ 23.51 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 2567
ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงหนักที่สุด โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) ร่วงลง 6.2% และ 3.98% ตามลำดับ
หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor) และหุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเป็นสองบริษัทผลิตรถยนต์ที่มีห่วงโซ่อุปทานทั่วทั้งภูมิภาคอเมริกาเหนือ ร่วงลง 2.9% และ 4.6% ตามลำดับ
หุ้นทาร์เก็ต (Target) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ ร่วงลง 3% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเพียง 1% ในไตรมาส 1/2568 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6% ขณะที่ไบรอัน คอร์เนลล์ ซีอีโอของทาร์เก็ตกล่าวว่า การที่ปธน.ทรัมป์เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกในอัตรา 25% จะทำให้บริษัทต้องปรับขึ้นราคาสินค้าด้านการเกษตรอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.0% ในเดือนก.พ.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 มี.ค. 68)
Tags: dowjones, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก