ทองปิดพุ่ง $52.60 รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย-ดอลล์อ่อนหนุนตลาด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 50 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (3 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ

  • ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 52.60 ดอลลาร์ หรือ 1.85% ปิดที่ 2,901.10 ดอลลาร์/ออนซ์

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดิ่งลงกว่า 1% ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรยังทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยปธน.ทรัมป์ยืนยันว่าสหรัฐฯ จะดำเนินการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ตั้งแต่วันอังคารที่ 4 มี.ค.ตามกำหนด โดยระบุว่าทั้งสองประเทศไม่มีช่องทางที่จะสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีได้อีก นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยืนยันว่าสหรัฐฯ จะเริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.นี้เป็นต้นไป

ดาเนียล พาวิโลนิส นักกลยุทธ์ด้านตลาดจากบริษัท RJO Futures คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3,000 ดอลลาร์ เนื่องจากการที่สหรัฐฯ บังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรกับแคนาดาและเม็กซิโกอาจจะส่งผลให้ทั้งสองประเทศคู่ค้าตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยการใช้มาตรการแบบเดียวกัน นอกจากนี้ คาดว่าราคาทองคำจะยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ เดินหน้าซื้อทองคำ

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.ของสหรัฐฯ จากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง (ADP) ในวันพุธ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.0% ในเดือนก.พ.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มี.ค. 68)

Tags: , , ,
Back to Top