
เสี่ยว เฉียน เอกอัครราชทูตจีนประจำออสเตรเลีย เตือนว่า การที่ออสเตรเลียห้ามไม่ให้ใช้แอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของบริษัทดีปซีค (DeepSeek) ในระบบและอุปกรณ์ทั้งหมดของรัฐบาล อาจทำให้ความสัมพันธ์ทางการค้าและเทคโนโลยีระหว่างสองชาติถูกทำให้กลายเป็นเรื่องการเมืองมากขึ้น ทั้งที่สองชาติเพิ่งฟื้นสัมพันธ์ทวิภาคีเมื่อไม่นานมานี้
การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่จีนนำกองทัพเรือแล่นผ่านน่านน้ำของออสเตรเลียอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แผนการเดินเรือรอบออสเตรเลีย นอกจากนี้ เมื่อ 10 วันที่แล้ว เรือรบจีนได้ทำการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงในทะเลแทสมัน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์
เสี่ยวเปิดเผยผ่านหนังสือพิมพ์ ดิ ออสเตรเลียน (The Australian) ฉบับวันจันทร์ (3 มี.ค.) ว่า โปรแกรม AI ที่จีนพัฒนาขึ้นจะ “เป็นประโยชน์ต่อโลกอย่างมหาศาลในหลายแง่มุม” พร้อมกับเรียกร้องให้ออสเตรเลียจับมือกับจีนเพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ
เสี่ยวระบุว่า “การดำเนินมาตรการจำกัดโดยอ้าง ‘ความเสี่ยงต่อความมั่นคง’ คือความพยายามที่จะทำให้แนวคิดความมั่นคงของชาติกลายเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าเหตุ ตลอดจนทำให้ประเด็นการค้าและเทคโนโลยีกลายเป็นเรื่องการเมือง”
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ของโลกที่ห้ามไม่ให้ใช้ดีปซีคบนอุปกรณ์ของรัฐบาล ซึ่งเป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานความมั่นคงของชาติ
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นหนึ่งในหลาย ๆ ความเคลื่อนไหวในช่วงเดือนที่ผ่านมา ซึ่งอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย โดยทั้งสองชาติต่างพยายามอย่างจริงจังที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่พรรคแรงงานชนะการเลือกตั้งในเดือนพ.ค. 2565
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 มี.ค. 68)
Tags: DeepSeek, จีน, ออสเตรเลีย