สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ออกแถลงการณ์ประณามการบังคับส่งกลับชาวอุยกูร์จากประเทศไทย ระบุเป็นการละเมิดหลักการห้ามส่งกลับ และภาระผูกพันของรัฐบาลไทยที่มีต่อกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการบังคับส่งกลับบุคคลจากประเทศไทย
แถลงการณ์ซึ่งเผยแพร่บนเว็บไซต์ของ UNHCR ระบุว่า UNHCR แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการบังคับส่งกลับชาวอุยกูร์จำนวน 40 คน หลังจากอยู่ในศูนย์กักกันในประเทศไทยเป็นเวลากว่า 10 ปี
UNHCR ได้รับรายงานจากหลายช่องทางว่ากลุ่มชาวอุยกูร์ที่ถูกกักกันตัวในกรุงเทพฯ ได้ถูกบังคับส่งกลับอย่างรวดเร็ว โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหน่วยงานได้ขอสิทธิ์การเข้าถึงคนกลุ่มนี้มาโดยตลอด และได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยว่าคนเหล่านี้เป็นกลุ่มคนที่ได้แสดงความหวาดกลัวต่อการส่งกลับ จะไม่ถูกเนรเทศออกจากประเทศ อย่างไรก็ดี การเข้าถึงบุคคลเหล่านี้ไม่เคยได้รับอนุมัติ และเมื่อติดต่อเพื่อขอคำชี้แจ้ง ทางเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยแจ้งว่าไม่มีการตัดสินใจต่อการเนรเทศคนกลุ่มนี้
“นี่เป็นการละเมิดหลักการห้ามส่งกลับ และภาระผูกพันของรัฐบาลไทยที่มีต่อกฎหมายระหว่างประเทศ” รูเวนดรินี่ เมนิคดิเวล่า ผู้ช่วยข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติด้านการให้ความคุ้มครอง กล่าว
สิทธิขั้นพื้นฐานในการขอลี้ภัย และการไม่ถูกบังคับให้ส่งกลับ (เช่น ไม่ส่งผู้คนกลับไปยังสถานที่ที่พวกเขาอาจเผชิญกับความเสี่ยง) ได้ถูกกำหนดไว้ในมาตรา 13 ใน พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายของประเทศไทย มาตรา 16 ของ ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และมาตรา 14 ของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
UNHCR ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการกักขังคนกลุ่มนี้นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 เร่งให้เจ้าหน้าที่ปรับปรุงสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมของพวกเขา มอบทางเลือกที่จะไม่ถูกกักกัน และหาทางออกที่ปลอดภัย และเป็นไปได้
“UNHCR เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุติการบังคับส่งกลับบุคคลจากประเทศไทย” เมนิคดิเวลล่ากล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 68)
Tags: UNHCR, กฎหมายระหว่างประเทศ, จีน, อุยกูร์