สหรัฐฯ คาดผู้ลักลอบข้ามชายแดนเม็กซิโกแตะนิวโลว์ในเดือนก.พ.

ทริเชีย แมคลาฟลิน โฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวานนี้ (27 ก.พ.) ว่า จำนวนผู้อพยพที่ถูกจับกุมระหว่างลักลอบข้ามชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก อาจอยู่ที่ราว 8,500 รายในเดือนก.พ. ซึ่งอาจทำสถิติต่ำสุดรายเดือนนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2543

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตัวเลขดังกล่าวลดลงอย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับเดือนก.พ.ปีก่อน ซึ่งมีการจับกุมสูงถึง 141,000 ราย และลดลงจากเดือนม.ค.ปีนี้ ซึ่งมีการจับกุม 29,000 ราย

สาเหตุสำคัญของปรากฏการณ์นี้เชื่อมโยงกับนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เพิ่งกลับมาดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. โดยมาตรการสำคัญประกอบด้วยการสั่งห้ามขอลี้ภัยที่ชายแดน การส่งกำลังทหารไปประจำการบริเวณชายแดน การทำข้อตกลงกับเม็กซิโกและประเทศในอเมริกากลางให้รับผู้ถูกเนรเทศ และการส่งผู้อพยพไปยังศูนย์กักกันในอ่าวกวนตานาโมของคิวบา

อย่างไรก็ตาม มาตรการห้ามขอลี้ภัยดังกล่าวกำลังถูกสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (ACLU) ฟ้องร้องว่าขัดต่อกฎหมายลี้ภัยของสหรัฐฯ และสนธิสัญญาระหว่างประเทศ

ในช่วงที่ทรัมป์เริ่มดำรงตำแหน่งปธน.สมัยแรกระหว่างปี 2560-2564 เคยเกิดปรากฏการณ์ที่ยอดจับกุมผู้อพยพที่ชายแดนลดลงอย่างมาก หรือที่เรียกว่า “ทรัมป์เอฟเฟ็กต์” อย่างไรก็ตาม ตัวเลขก็กลับเพิ่มขึ้นในเวลาต่อมา

อนึ่ง สถิติเดิมของจำนวนผู้อพยพที่ถูกจับกุมต่ำสุดคือ 11,127 ราย ในเดือนเม.ย. 2560 หรือช่วงต้นรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 68)

Tags: , ,
Back to Top