สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี (27 ก.พ.) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปทานตึงตัว หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกใบอนุญาตของบริษัทเชฟรอน (Chevron) ในการดำเนินธุรกิจน้ำมันในเวเนซุเอลา
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ หรือ 2.52% ปิดที่ 70.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.51 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 74.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
ปธน.ทรัมป์ประกาศยกเลิกใบอนุญาตของบริษัทเชฟรอนในการดำเนินธุรกิจน้ำมันในเวเนซุเอลา โดยอ้างว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ไม่มีความคืบหน้าในการปฏิรูปการเลือกตั้งและการรับผู้อพยพชาวเวเนซุเอลากลับประเทศ
เชฟรอนส่งออกน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาประมาณ 240,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 4 ของการผลิตน้ำมันทั้งหมดของประเทศ ซึ่งการยกเลิกใบอนุญาตนี้จะทำให้เชฟรอนไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาได้อีกต่อไป และหากบริษัทน้ำมันแห่งชาติ PDVSA ของเวเนซุเอลาพยายามส่งออกน้ำมันเหล่านี้เอง โรงกลั่นของสหรัฐฯ ก็ไม่สามารถซื้อได้เนื่องจากติดมาตรการคว่ำบาตร
นับตั้งแต่กลับเข้าดำรงตำแหน่งปธน.เมื่อเดือนม.ค. ทรัมป์ได้กล่าวหลายครั้งว่าสหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาน้ำมันจากเวเนซุเอลา โดยในสมัยแรกที่ดำรงตำแหน่งปธน. เขาใช้นโยบายที่สร้างแรงกดดันสูงสุดต่อรัฐบาลมาดูโร โดยเฉพาะการคว่ำบาตรภาคพลังงานของเวเนซุเอลา
รายงานล่าสุดระบุว่า ขณะนี้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส กำลังถกเถียงกันว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนเม.ย.หรือจะตรึงกำลังการผลิตเอาไว้ที่ระดับเดิม เนื่องจากชาติสมาชิกของโอเปกพลัสกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการประเมินภาพรวมของอุปทานน้ำมันในตลาดโลก อันเนื่องมาจากมาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดที่สหรัฐฯ ประกาศใช้กับเวเนซุเอลา อิหร่าน และรัสเซีย
นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการทำข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งหากประสบความสำเร็จจะทำให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย และจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำมันในตลาดมากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 68)
Tags: WTI, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน