
นางสาว กฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ [ETL] เปิดเผยว่า บริษัทวางกลยุทธ์ในปี 68 ที่จะกล้บมาสร้างรายได้และกำไรปกติ และเติบโตควบคู่ไปกับภาวะอุตสาหกรรม โดยมองว่าธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดนยังมีโอกาสเติบโต ซึ่งมีจุดเด่นทั้งด้านราคาที่ถูกกว่าการขนส่งทางด้านอื่นๆ และยังมีความต้องการใช้บริการที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะระบบขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics) ที่มองว่ามีการเติบโตที่สูงและต่อเนื่องจากปีก่อน
ขณะที่ ETL มุ่งเน้นการให้บริการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และขยายไปยังยุโรปผ่านการขนส่งหลากหลายรูปแบบ ด้วยระบบเทคโนโลยีการจัดการระบบที่ทันสมัย สามารถติดตามการขนส่งอย่าง real time ตลอดเส้นทาง มีตารางการขนส่งเป็นประจำชัดเจนและต่อเนื่อง พร้อมทั้งสามารถควบคุมคุณภาพสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูง เป็นไปตามความต้องการของลูกค้าในหลายกลุ่มธุรกิจ
สำหรับปีนี้ ETL มุ่งเน้นในการเพิ่มประสิทธิภาพของตู้ควบคุมอุณหภูมิ เพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจเกษตร-ผักผลไม้ กลุ่มอาหาร และกลุ่มเวชภัณฑ์ ที่ต้องการควบคุมคุณภาพของสินค้าในการขนส่ง นอกจากนี้จะเน้นการขยายตลาดในกลุ่มธุรกิจการให้บริการขนส่งแบบไม่เต็มตู้ (LTL : Less than Truck Load) โดยมองว่าลูกค้าในกลุ่มนี้ยังมีศักยภาพและมีแนวโน้มการขยายตัว ทั้งนี้ บริษัทฯจะเพิ่มเส้นทางการให้บริการเพื่อจะเชื่อมต่อจุดหมายปลายทางให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันบริษัทฯ มีตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container) 45 ฟุต จำนวน 100 ตู้ และตู้คอนเทนเนอร์แบบมาตรฐาน (Dry Container) มีประมาณ 400 ตู้
“ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาอาจจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก แต่ภาพรวมของธุรกิจยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯคาดว่าปีนี้จะกลับมาสร้างรายได้และกำไรได้ตามเป้าหมายพลกฟื้นกำไร (turnaround) โดยเน้นการบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และสร้างเครือข่ายผ่านบริษัทย่อยสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางบกระหว่างประเทศและยกระดับมาตรฐานสู่สากล เพื่อรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” นางสาวกฤชวรรณ กล่าว
ขณะที่ผลประกอบการปี 67 บริษัทฯ มีรายได้ 1,266.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน และมีผลขาดทุน 33 ล้านบาท เนื่องจากช่วงไตรมาส 4/67 บริษัทตั้งสำรองค่าใช้จ่ายภายหลังจากลูกหนี้รายใหญ่ค้างชำระหนี้เนื่องจากขาดสภาพคล่อง ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล อย่างไรก็ตาม คาดว่าบริษัทฯน่าจะได้รับการชำระหนี้ก้อนนี้ในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทยังประสบปัญหาการลอยตัวของราคาน้ำมันในประเทศมาเลเซียส่งผลให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งค่าเงินบาทที่มีความผันผวนช่วงก่อนหน้านี้ โดยปัญหาดังกล่าวเริ่มเข้ากลับสู่สถานการณ์ปกติ จากการอุดหนุนของรัฐบาลมาเลเซีย และความมีเสถียรภาพของค่าเงินบาท ทั้งนี้ บริษัทฯได้เตรียมแผนการในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งคาดว่าปีนี้สถานการณ์ต่างๆจะกลับสู่ภาวะปกติ และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีควบคู่กับภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาค
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.พ. 68)
Tags: ETL, กฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย, หุ้นไทย