
สหภาพครูในสหรัฐฯ ได้ยื่นฟ้องเมื่อวันอังคาร (25 ก.พ.) เพื่อขอให้ศาลระงับนโยบายของรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกำหนดให้ตัดงบประมาณของรัฐบาลกลางจากโรงเรียนที่สอนเกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติและหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยก (DEI)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คดีดังกล่าวได้ถูกยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางในรัฐแมริแลนด์โดยสหพันธ์ครูแห่งอเมริกา (AFT) และสมาคมสังคมวิทยาอเมริกัน (ASA) โดยขอให้ผู้พิพากษาวินิจฉัยว่า นโยบายดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ และสั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางบังคับใช้นโยบายนี้ ซึ่งถูกกำหนดไว้ในบันทึกของกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 14 ก.พ.
คดีนี้เป็นความท้าทายทางกฎหมายล่าสุดต่อคำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ที่พยายามยุติโครงการ DEI ในหน่วยงานรัฐบาลกลางและภาคเอกชน
ทรัมป์และพันธมิตรพรรครีพับลิกันของเขาอ้างว่า โครงการ DEI ขัดต่อหลักการพิจารณาคุณสมบัติตามความสามารถ (merit-based) และเลือกปฏิบัติต่อคนผิวขาวและผู้ชาย ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่าโครงการเหล่านี้ช่วยสนับสนุนชุมชนที่ถูกกดขี่โดยแก้ไขความไม่เท่าเทียมที่มีมาตั้งแต่อดีต
คำฟ้องระบุว่า แนวทางของกระทรวงศึกษาธิการนั้นจะเป็นอุปสรรคต่อโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่เท่าเทียมกัน และส่งผลกระทบร้ายแรงต่อโรงเรียน โดยทำให้นักเรียนขาดโอกาสในการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และขยายมุมมองระดับโลก
“นโยบายที่คลุมเครือและขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนนี้เป็นการโจมตีร้ายแรงต่อนักเรียน วิชาชีพครู และองค์ความรู้โดยรวม” แรนดี ไวน์การ์เทน ประธาน AFT ระบุในแถลงการณ์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.พ. 68)
Tags: สหรัฐ, โดนัลด์ ทรัมป์, โรงเรียน