
เหยื่อการหลอกลวงในสิงคโปร์สูญเสียเงินถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 ซึ่งถือเป็นมูลค่าความเสียหายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบปีเดียว
หนังสือพิมพ์เดอะสเตรทไทมส์รายงานว่า ยอดรวมความเสียหายจากการหลอกลวงรูปแบบต่าง ๆ สูงขึ้น 70% เมื่อเทียบกับ 651.8 ล้านดอลลาร์ที่มิจฉาชีพได้ไปในปี 2566 ตามรายงานของตำรวจที่เปิดเผยตัวเลขดังกล่าวในวันนี้
โดยรวมแล้ว เหยื่อในสิงคโปร์สูญเสียเงินมากกว่า 3.4 พันล้านดอลลาร์จากการถูกหลอกลวงตั้งแต่ปี 2562
ตำรวจได้รับรายงานเกี่ยวกับการหลอกลวงสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2567 โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 51,501 คดี เมื่อเทียบกับ 46,563 คดี เมื่อปีก่อนหน้านั้น ซึ่งกว่า 70% ของคดีเหล่านี้ มีมูลค่าความเสียหายต่ำกว่า 5,000 ดอลลาร์ และมูลค่าความเสียหายเฉลี่ยต่อคดีอยู่ที่ประมาณ 1,300 ดอลลาร์
ทั้งนี้ กลโกงที่พบบ่อยที่สุดในปี 2567 คือ การหลอกลวงผ่านอีคอมเมิร์ซ โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 11,665 คดี และทำให้เหยื่อสูญเงินรวม 17.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเหยื่อประมาณ 1 ใน 2 มีอายุระหว่าง 30-49 ปี
ตำรวจกล่าวว่า กลลวงตั๋วคอนเสิร์ต มีส่วนทำให้เกิดคดีหลอกลวงทางอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่
ขณะเดียวกัน การหลอกลวงเรื่องงานยังคงเป็นการหลอกลวงที่น่ากังวลมากเป็นอันดับต้น ๆ ในปี 2567 แม้จะมีจำนวนคดีที่รายงานลดลง โดยรวมแล้ว เหยื่อรายงานคดีมากกว่า 9,000 คดี และสูญเสียเงิน 156.2 ล้านดอลลาร์
การหลอกลวงแบบฟิชชิง (phishing) ยังคงติดอยู่ใน 3 อันดับแรกของการหลอกลวงที่น่ากังวลในปี 2567 ด้วยมูลค่าความเสียหาย 59.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าเมื่อปีก่อนหน้านั้นถึง 4 เท่าตัว
นอกจากนี้ ตัวเลขที่ตำรวจเปิดเผยออกมาแสดงให้เห็นว่าเหยื่อการหลอกลวงมากกว่า 70% มีอายุไม่ถึง 50 ปี
ทั้งนี้ คนหนุ่มสาวและผู้ที่อายุต่ำกว่า 50 ปีมักตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงทางอีคอมเมิร์ซมากที่สุด ในขณะที่ผู้ที่มีอายุระหว่าง 50 ถึง 64 ปีและผู้สูงอายุส่วนใหญ่สูญเสียเงินจากการหลอกลวงแบบฟิชชิง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.พ. 68)
Tags: สิงคโปร์, แก๊งต้มตุ๋น