ไข้หวัดใหญ่แนวโน้มสูงขึ้น!! เกือบ 2 เดือนยอดป่วยพุ่ง 1.3 แสนราย

นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-24 ก.พ. 68 มีจำนวนผู้ป่วยสะสม 131,826 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 12 ราย กลุ่มอายุที่พบมากสุดเป็นกลุ่มเด็กอายุ 5-9 ปี รองลงมาเป็นกลุ่ม อายุ 0-4 ปี และกลุ่มอายุ 10-14 ปี ตามลำดับ

โดยภาคที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด คือ ภาคเหนือ (258.44) รองลงมา คือภาคกลาง (222.48) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (175.88) และภาคใต้ (138.85) ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 10 จังหวัดแรก ได้แก่ พะเยา (638.55) ลำพูน (591.61) เชียงราย (469.88) ภูเก็ต (456.36) เชียงใหม่ (443.04) ลำปาง (374.70) น่าน (341.83) กรุงเทพมหานคร (331.85) อุบลราชธานี (301.93) และนนทบุรี (290.59)

ทั้งนี้ แนวโน้มผู้ป่วยรายสัปดาห์ในปีนี้สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา (67) ในช่วงเวลาเดียวกันประมาณ 1.6 เท่า และสูงกว่าค่ามัธยฐานย้อนหลัง 5 ปี โดยปี 67 พบผู้ติดเชื้อทั้งปีรวม 668,027 ราย เสียชีวิต 51 ราย สายพันธุ์ที่ตรวจพบมากที่สุด คือสายพันธุ์ AH1N1 (2009)

นพ.ภาณุมาศ กล่าวว่า ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง หากป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน มีอาการรุนแรง และนำไปสู่การเสียชีวิต เช่น ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป, เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี, ผู้มีโรคประจำตัว, ผู้เป็นโรคอ้วน และหญิงมีครรภ์ ซึ่งควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เพื่อลดความรุนแรงของโรคและการเสียชีวิต และควรดูแลสุขภาพ รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องเข้าไปในที่ที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ

อย่างไรก็ดี หากมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่บ้าน 3-7 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้น เช่น หอบเหนื่อย ซึมลง ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพื่อลดอาการรุนแรงจากโรค ควรเน้นในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1. เด็กอายุ 6 เดือน-2 ปี 2. ผู้สูงอายุที่อายุ 65 ปีขึ้นไป 3. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 4. ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 5. ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง 6. ผู้ที่ป่วยเป็นโรคอ้วน 7. หญิงตั้งครรภ์ ที่อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.พ. 68)

Tags: , , ,
Back to Top