ไทย-กัมพูชาบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตึกใหญ่ฝั่งปอยเปตเจอคนไทยนับร้อย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าเช้าวันนี้นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานจาก พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งตะวันออกบริเวณขอบชายแดนจังหวัดสระแก้วว่า รัฐบาลไทยได้ขอความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับ กัมพูชาในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์

โดย พล.ต.ต.จุม เรียง รอง ผบ.ตร. กพช. จเรตำรวจได้ประสานงานกับผู้บัญชาการตำรวจของกัมพูชา นำกำลังเข้าตรวจค้นอาคาร 3 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ซึ่งอยู่ใน compound พลาซ่า ซึ่งสายข่าวจากประเทศไทยระบุว่ามีคนไทยส่วนหนึ่งถูกหลอกไปทำงานซึ่งสถานที่แห่งนี้ มีคนจีนเช่าทำธุรกิจพนันออนไลน์และหลอกลวงออนไลน์ ในกรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย กัมพูชา ตรงข้ามกับ บริเวณด่านคลองลึกตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยที่ดินและอาคารดังกล่าวถูกระบุว่า เป็นของผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งของ จ.บันเตียเมียนเจย

จนท.ได้นำชาวต่างชาติออกมารวม 215 คน ในจำนวนนี้มีคนไทย 109 คน เป็นหญิงไทย 54 คน นอกจากนี้ยังมีชาวไต้หวัน 5 คน ปากีสถาน 50 คน อินโดนีเซีย 3 คน อินเดีย 48 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำและบันทึกประวัติของฝั่งกัมพูชาอยู่

ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก รัฐบาลไทยขอความร่วมมือในการร่วมกันแก้ไขปัญหาของทั้งสองประเทศ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา จเรตำรวจไทยเข้าพบ รอง ผบ.ตร. กัมพูชา เมื่อ วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ฝ่ายข่าวความมั่นคงระบุว่า นับว่าเป็นการนำคนไทยออกมาจำนวนมากจากตึกที่คาดว่าทำธุรกิจออนไลน์ครั้งใหญ่ที่สุดของทั้งสองประเทศ และจะมีการระดมกวาดล้างต่อไปอย่างต่อเนื่อง

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า เช้าวันนี้ ผู้ช่วยทูตฝ่าย ตร.และฝายกงสุลของไทยจะเดินทางไป ที่ชายแดน ที่บริเวณด่านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วเพื่อติดตามความคืบหน้าและดำเนินการเอกสาร การบันทึกประวัติและคัดกรองเพื่อสอบปากคำเบื้องต้นว่าบุคคลเหล่านี้เป็นเหยื่อหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการ

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมในการรับคนไทยและขอให้ปฏิบัติในการตรวจสอบอย่างละเอียดในทุกมิติรวมทั้งให้เตรียมการประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตต่างๆที่มีกลุ่มคนเหล่านี้ที่ถูกระบุ เพื่อเตรียมความพร้อมในกระบวนการทางกฎหมายต่างๆต่อไป ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของประเทศไทย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.พ. 68)

Tags: , , ,
Back to Top