AOT แจง “คิงเพาเวอร์” ค้างจ่ายค่าตอบแทนไม่กระทบรายได้ เปิดช่องเจรจาลดค่าปรับล่าช้า

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย [AOT] หรือ ทอท. กล่าวกรณีบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ที่เป็นคู่สัญญาประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) มีปัญหาสภาพคล่อง และมีการเจรจากับทอท.เพื่อขอเลื่อนการชำระค่าตอบแทนและปรับสัญญานั้น ผู้ประกอบการคู่สัญญาของทอท.มีปัญหาสภาพคล่องมาตั้งแต่ช่วงเกิดโควิด-19 ซึ่ง ทางคิงเพาเวอร์ฯ ได้ยื่นเสนอขอเจรจาลดค่าปรับกรณีจ่ายค่าตอบแทนล่าช้า ซึ่งตามสัญญากำหนดอัตราดอกเบี้ยค่าปรับล่าช้าจะอยู่ที่ 18% ต่อปี หรือ 1.5% ต่อเดือน โดยอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อลดดอกเบี้ยค่าปรับ ซึ่งจะไม่ต่ำกว่า MLR+2%

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการค้างชำระจ่ายค่าตอบแทนรวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท โดยเป็นของคิงเพาเวอร์จำนวน 4,000 ล้านบาท ซึ่งการปรับโครงสร้างดอกเบี้ยค่าปรับล่าช้าจะไม่รวมในส่วนนี้ โดยผู้ประกอบการรายใดต้องการก็ต้องยื่นเสนอและเข้าเจรจา นับตั้งแต่เดือนก.พ. 68 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ เมื่อเดือนม.ค. 68 คณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ได้มีมติบรรเทาผลกระทบให้ผู้ประกอบการและสายการบินจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 โดยมีโครงการขยายระยะเวลาชำระเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานของทอท.ทั้ง 6 แห่งที่ขาดสภาพคล่อง โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการต้องมีหลักประกันสัญญาและวงเงินของหลักประกันสัญญาต้องครอบคลุมเงินต้นรวมกับค่าปรับจากการผิดนัดชำระในอัตราดอกเบี้ย 18%

โดยอัตราดอกเบี้ย คำนวนจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) เฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 แห่ง และบวกเพิ่มอีก 2% ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว จะต้องไม่น้อยกว่าต้นทุนทางการเงิน ของทอท. ที่ประมาณ 3% ซึ่งกรณี MLR+2% ไม่กระทบต่อต้นทุนทางการเงินของทอท.

“การปรับลดดอกเบี้ยค่าปรับดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของทอท. เพราะทอท.จะยังคงได้รับรายได้เหมือนเดิม หลักการของทอท.คือต้องพยายามทำให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เป็นการดำเนินธุรกิจปกติ ทั่วโลกเป็นเหมือนกันผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีหลายรายก็มีปัญหาสภาพคล่อง ส่วนทอท.เป็นรัฐวิสาหกิจ ต้องยึดมั่นในสัญญาไม่สามารถเจรจาเพิ่มเติมได้ ไม่มีการปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขสัญญาแต่อย่างใด”

กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 68)

Tags: , , , ,
Back to Top