แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วางแผนที่จะผลักดันให้พันธมิตรยุโรปซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนยูเครน ก่อนการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งแผนนี้อาจช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองให้ยูเครนในการเจรจา
หากแผนนี้ได้รับการอนุมัติ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้นำยูเครนที่กังวลว่าปธน.ทรัมป์อาจหยุดให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ขณะที่กองทัพยูเครนกำลังค่อย ๆ สูญเสียดินแดนทางตะวันออกจากการโจมตีอย่างหนักของกองทัพรัสเซีย โดยก่อนหน้านี้ประเทศในยุโรปเคยซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ เพื่อช่วยยูเครนในสมัยของรัฐบาลปธน.โจ ไบเดน
แหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รวมถึงพลโทเกษียณ คีธ เคลล็อกก์ ทูตพิเศษประจำยูเครนและรัสเซียของปธน.ทรัมป์ จะหารือเรื่องการซื้ออาวุธกับพันธมิตรยุโรปในสัปดาห์นี้ ระหว่างการประชุมด้านความมั่นคงที่นครมิวนิก
แผนดังกล่าวเป็นหนึ่งในหลายแนวทางที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาเพื่อให้การส่งอาวุธไปยังยูเครนดำเนินต่อไปได้ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณสหรัฐฯ มากนัก
ในระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์ (10 ก.พ.) เคลล็อกก์ปฏิเสธที่จะยืนยันแผนดังกล่าว โดยระบุว่า “สหรัฐฯ ชอบขายอาวุธที่ผลิตในสหรัฐฯ อยู่แล้ว เพราะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจของเรา”
“มีตัวเลือกมากมาย ทุกอย่างกำลังอยู่ในการพิจารณา” เคลล็อกก์กล่าว พร้อมเสริมว่า การส่งอาวุธที่อดีตปธน.ไบเดนเคยอนุมัติไว้ ยังคงทยอยเข้าสู่ยูเครนอย่างต่อเนื่อง
“ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า” เคลล็อกก์กล่าวย้ำ
อย่างไรก็ดี สถานทูตยูเครนในกรุงวอชิงตันยังไม่ได้ให้ความเห็นใด ๆ ต่อกรณีนี้
ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่า สหรัฐฯ จะขอให้ประเทศยุโรปซื้ออาวุธผ่านสัญญาเชิงพาณิชย์ หรือซื้อโดยตรงจากคลังแสง โดยสัญญาเชิงพาณิชย์บางฉบับอาจใช้เวลาหลายปีกว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.พ. 68)
Tags: ยุโรป, ยูเครน, รัสเซีย, สหรัฐ, อาวุธ