ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (10 ก.พ.) แตะระดับสูงสุดตลอดกาล โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่ตลาดประเมินผลกระทบที่เป็นไปได้จากการเตือนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเก็บภาษีเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 545.92 จุด เพิ่มขึ้น 3.17 จุด หรือ +0.58%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,006.22 จุด เพิ่มขึ้น 33.19 จุด หรือ +0.42%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 21,911.74 จุด เพิ่มขึ้น 124.74 จุด หรือ +0.57% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,767.80 จุด เพิ่มขึ้น 67.27 จุด หรือ +0.77%
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซนำตลาดปรับตัวขึ้น 1.5%
หุ้นบีพี (BP) พุ่งขึ้น 7.3% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี หลังมีรายงานว่าเอลเลียต อินเวสเมนต์ แมเนจเมนต์ (Elliott Investment Management) เข้าถือหุ้นในบริษัท ซึ่งคาดว่าจะผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้านกลยุทธ์ของบริษัท
ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานด้วย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทรัมป์เปิดเผยว่า เขาจะประกาศเก็บภาษีนำเข้าใหม่ 25% จากเหล็กและอะลูมิเนียม และเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กับทุกประเทศในสัปดาห์นี้
หุ้นอาร์เซเลอร์มิตตัล (ArcelorMittal) ลดลง 0.6% และหุ้นโวสตัลไพน์ (Voestalpine) ร่วงลง 1% โดยสหรัฐฯ นำเข้าเหล็กจากบริษัทผลิตเหล็กของยุโรปราว 15%
คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ความตึงเครียดด้านการค้าจะทำให้แนวโน้มเงินเฟ้อของยูโรโซนไม่มีความแน่นอนมากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.พ. 68)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป