สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (6 ก.พ.) ว่า ชาวญี่ปุ่นสูญเงินจากการถูกหลอกให้รัก (romance scam) และหลอกลงทุนทางโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2567 โดยมีจำนวนผู้เสียหายมากกว่าปีก่อนหน้าเป็นเท่าตัว
ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า มูลค่าความเสียหายจากเหล่าสแกมเมอร์อยู่ที่ราว 1.268 แสนล้านเยน (833 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 8.13 หมื่นล้านเยนจากปี 2566 โดยจำนวนการหลอกลงทุนพุ่งขึ้น 4,109 คดี เป็น 6,380 คดี ขณะที่การหลอกให้รักเพิ่มขึ้น 2,209 เป็น 3,784 คดี
ขณะที่อาชญากรรมที่เรียกว่า “การฉ้อโกงพิเศษ” (special fraud) ซึ่งรวมถึงกรณีที่คนร้ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวนของตำรวจ สามารถหลอกเงินได้สูงสุดถึง 7.22 หมื่นล้านเยน หรือพุ่งขึ้น 59.4%
จำนวนคดีฉ้อโกงพิเศษเพิ่มขึ้น 10.2% จากปีก่อนหน้า สู่ระดับ 20,987 คดี โดยราว 80% ของคดีดังกล่าว เหยื่อได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสายจากต่างประเทศ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บัญชีธนาคารออนไลน์ถูกใช้ในการหลอกลวงทางโซเชียลมีเดียทุกรูปแบบ ตลอดจนคดีฉ้อโกงพิเศษส่วนใหญ่ เนื่องจากสามารถโอนเงินจำนวนมากเมื่อเทียบกับตู้ ATM นอกจากนี้ ธุรกรรมออนไลน์ยังตรวจจับได้ยากกว่าด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจเตือนประชาชนให้ระมัดระวังบุคคลที่พยายามยุยงให้เปิดหรือใช้บัญชีธนาคารออนไลน์ และขอให้สถาบันการเงินนำระบบตรวจสอบมาใช้เพื่อตรวจจับธุรกรรมฉ้อโกงด้วย
ทั้งนี้ จำนวนคดีอาญาที่ได้รับการสืบสวนสอบสวนในปี 2567 รวมถึงคดีฉ้อโกง เพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยมียอดรวมอยู่ที่ 737,679 คดี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 68)
Tags: ญี่ปุ่น, มิจฉาชีพ, สแกมเมอร์, หลอกลงทุน