ไปรษณีย์สหรัฐฯ กลับลำ ยกเลิกคำสั่งงดรับพัสดุจากจีน-ฮ่องกง

ไปรษณีย์สหรัฐฯ (USPS) ประกาศว่าจะรับ “พัสดุและจดหมายขาเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด” ที่มาจากจีนและฮ่องกงเหมือนเดิมแล้ว หลังจากที่เพิ่งประกาศระงับการรับพัสดุบางประเภทไปก่อนหน้านี้

USPS ระบุในแถลงการณ์ทางอีเมลว่า ทางหน่วยงานกำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐฯ (CBP) เพื่อหาทางลดผลกระทบต่อการจัดส่งให้น้อยที่สุด พร้อมกับวางระบบจัดเก็บภาษีนำเข้าแบบใหม่สำหรับสินค้าจากจีนให้มีประสิทธิภาพ โดยจะเริ่มรับพัสดุตามปกติตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.เป็นต้นไป

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การกลับมาให้บริการตามปกติครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเกิดความสับสนวุ่นวายอยู่ประมาณ 12 ชั่วโมง เมื่อ USPS ประกาศเมื่อช่วงดึกของวันอังคาร (4 ก.พ.) ว่าจะระงับการรับพัสดุจากจีนและฮ่องกงชั่วคราว โดยไม่ได้ให้เหตุผล ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะยิ่งทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนแย่ลงไปอีก และยังกระทบราคาหุ้นของบริษัทค้าปลีกอย่าง อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง (Alibaba Group Holding Ltd.) และเจดีดอทคอม (JD.com Inc.) ด้วย

จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้สาเหตุแน่ชัดว่าทำไมไปรษณีย์สหรัฐฯ ถึงได้ระงับการรับพัสดุในตอนแรก แล้วทำไมถึงกลับลำในเวลาต่อมา หรือว่าการตัดสินใจครั้งนี้มาจากเรื่องการเมืองหรือแค่เรื่องเชิงโลจิสติกส์กันแน่

การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยกเลิกกฎ “de minimis” ซึ่งเป็นกฎที่เคยอนุญาตให้สินค้ามูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์จากจีนเข้าสหรัฐฯ ได้โดยไม่ต้องเสียภาษี การยกเลิกกฎนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเก็บภาษี 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน ทำให้ไปรษณีย์ต้องปรับระบบและขั้นตอนการทำงานใหม่เพื่อให้จัดเก็บภาษีได้ตามกฎใหม่

ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่ามีพัสดุใดโดนระงับจริง ๆ บ้างหรือไม่ เพราะตามประกาศแรกของ USPS ระบุไว้ว่า จดหมายและไปรษณียภัณฑ์ทั่วไปจากจีนและฮ่องกงจะไม่ได้รับผลกระทบ

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จำนวนพัสดุที่เข้าข่าย “de minimis” ที่ส่งเข้ามาในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในปีงบประมาณ 2567 มีพัสดุประเภทนี้เกือบ 1.4 พันล้านชิ้น (ข้อมูลจาก CBP) จำนวนที่มากขนาดนี้อาจทำให้ระบบที่ปกติไม่ได้ตรวจพัสดุเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ ต้องเจอกับความยุ่งยากมากขึ้น

เชลซี แทม นักวิเคราะห์หุ้นจาก Morningstar กล่าวว่า การยกเลิกกฎ “de minimis” เป็นเรื่องที่ “ท้าทายมาก” สำหรับ USPS เพราะต้องหาวิธีจัดการกับกฎภาษีใหม่ให้ได้ “ในปี 2567 มีพัสดุ de minimis เข้ามาถึงวันละ 4 ล้านชิ้น การจะตรวจพัสดุทั้งหมดเป็นเรื่องที่ยากมาก”

ทั้งนี้ ทางการสหรัฐฯ กำลังพยายามปิดช่องโหว่ที่บริษัทค้าปลีกอย่าง เทมู (Temu) และชีอิน (Shein) ใช้มานานเพื่อขยายตลาดในสหรัฐฯ โดยการส่งพัสดุเล็ก ๆ จำนวนมาก ทำให้ได้เปรียบเหนือคู่แข่งอย่างอะเมซอนดอทคอม (Amazon.com) โดยหลายฝ่ายวิจารณ์ว่า พัสดุจำนวนมหาศาลจากจีนเหล่านี้ยากต่อการตรวจสอบ และอาจมีสินค้าผิดกฎหมายหรือเป็นอันตรายปะปนมาด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 68)

Tags: , , , ,
Back to Top