![](https://www.infoquest.co.th/wp-content/uploads/2023/02/20230207_Canva_google-AI-กูเกิล-1024x576.png)
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (5 ก.พ.) กูเกิล (Google) ได้ฤกษ์เปิดตัว Gemini 2.0 Pro Experimental โมเดล AI ตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดที่หลายคนตั้งตารอ การเปิดตัวครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปล่อยโมเดล AI อีกหลายรุ่น อีกทั้งยังเพิ่มโมเดล “การให้เหตุผล” (reasoning) ที่เรียกว่า Gemini 2.0 Flash Thinking ลงในแอป Gemini อีกด้วย
เว็บไซต์เทคครันช์ (techcrunch) รายงานว่า กูเกิลเปิดตัว AI เหล่านี้ในช่วงที่วงการเทคโนโลยีกำลังจับตาดูโมเดล AI ด้านการให้เหตุผลราคาประหยัดจากดีปซีค (DeepSeek) สตาร์ตอัป AI ดาวรุ่งจากจีน โมเดลของดีปซีคนั้นมีประสิทธิภาพดีไม่แพ้ AI ระดับชั้นนำเจ้าต่าง ๆ จากฝั่งอเมริกา ทั้งยังเปิดให้ภาคธุรกิจเข้าถึงได้ง่ายผ่าน API ในราคาย่อมเยา
ทั้งกูเกิลและดีปซีคต่างก็ปล่อย AI ด้านการให้เหตุผลออกมาเมื่อเดือนธ.ค. แต่ดูเหมือนว่า R1 ของดีปซีคจะได้รับความสนใจมากกว่า ตอนนี้กูเกิลจึงอาจจะหวังใช้แอป Gemini ที่มีคนใช้เยอะอยู่แล้ว ดัน Gemini 2.0 Flash Thinking ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
สำหรับ Gemini 2.0 Pro ซึ่งเป็นรุ่นต่อยอดจาก Gemini 1.5 Pro ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนก.พ.ปีที่แล้ว กูเกิลระบุว่า ปัจจุบัน Gemini 2.0 Pro ขึ้นแท่นเป็นเบอร์หนึ่งในบรรดาโมเดล AI ในตระกูล Gemini
ก่อนหน้านี้ กูเกิลได้เผลอประกาศเปิดตัวโมเดล Gemini 2.0 Pro ผ่านบันทึกการเปลี่ยนแปลง (Changelog) ของแอป Gemini เมื่อประมาณหนึ่งสัปดาห์ที่แล้ว แต่ในครั้งนี้เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ บริษัทได้เผยแพร่รุ่นทดลอง (experimental version) ออกมาให้ใช้กันแล้วบนแพลตฟอร์มพัฒนาระบบ AI ได้แก่ Vertex AI และ Google AI Studio ส่วนผู้สมัครสมาชิก Gemini Advanced ก็สามารถใช้ Gemini 2.0 Pro ได้ภายในแอป Gemini เลย
กูเกิลระบุว่า Gemini Pro รุ่นใหม่นี้มีความโดดเด่นในด้านการเขียนโค้ดและการจัดการกับชุดคำสั่ง (prompt) ที่มีความซับซ้อน นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ “ความเข้าใจและการให้เหตุผลเกี่ยวกับความรู้รอบด้านที่ดีกว่า” โมเดลรุ่นก่อน ๆ ทั้งหมดของบริษัท โดย Gemini 2.0 Pro สามารถเรียกใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น Google Search และสั่งรันโค้ดแทนผู้ใช้งานได้อีกด้วย
Gemini 2.0 Pro มีขนาด “หน้าต่างบริบท” (context window) ถึง 2 ล้านโทเค็น หมายความว่าสามารถประมวลผลคำได้ประมาณ 1.5 ล้านคำในคราวเดียว หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ AI ตัวใหม่นี้สามารถรองรับข้อมูลจากหนังสือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” (Harry Potter) ทั้ง 7 เล่มได้ในชุดคำสั่งเดียว และยังเหลือที่พื้นให้ใส่คำได้อีกประมาณ 4 แสนคำ
นอกจากนี้ กูเกิลยังเปิดให้คนทั่วไปใช้ Gemini 2.0 Flash ได้แล้ว โดยโมเดลนี้เปิดตัวไปตั้งแต่เมื่อเดือนธ.ค. และในขณะนี้ ผู้ใช้งานแอป Gemini ทุกคนสามารถเข้าใช้ได้เลย
และเพื่อไม่ให้น้อยหน้า AI จากดีปซีค ทางกูเกิลจึงได้เปิดตัว Gemini 2.0 Flash-Lite โมเดล AI ใหม่ที่เน้นความคุ้มค่าด้านราคา บริษัทระบุว่า โมเดลรุ่นนี้มีประสิทธิภาพเหนือกว่า Gemini 1.5 Flash แต่ราคาและความเร็วเท่าเดิม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 68)
Tags: AI, Gemini, Google, กูเกิล, ปัญญาประดิษฐ์