นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ โดยที่ตลาดยังคงติดตามประเด็นสงครามการค้าของสหรัฐและประเทศคู่ค้าอื่น ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนและความไม่แน่นอนให้กับการลงทุน ทำให้นักลงทุนมีการโยกเงินจากสินทรัพย์เสี่ยงไปสินทรัพย์ปลอดภัย
ขณะเดียวกันยังรอติดตามการรายงานเงินเฟ้อไทยเดือนม.ค.ในวันนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าอยู่ที่ 1.25% แต่อย่างไรก็ตามอาจจะมีปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง หลังสต็อกน้ำมันของสหรัฐรายงานออกมาอยู่ในระดับสูง
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาบวกและลบ สลับกัน
โดยให้แนวต้าน 1,290-1,300 จุด แนวรับ 1,270-1,280 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (5 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,873.28 จุด เพิ่มขึ้น 317.24 จุด หรือ +0.71%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,061.48 จุด เพิ่มขึ้น 23.60 จุด หรือ +0.39% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,692.33 จุด เพิ่มขึ้น 38.31 จุด หรือ +0.19%
– ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,977.58 จุด เพิ่มขึ้น 146.10 จุด หรือ +0.38% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 20,598.98 จุด เพิ่มขึ้น 1.89 จุด หรือ +0.01% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 3,226.58 จุด ลดลง 2.91 จุด หรือ -0.09%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ก.พ.) ที่ 1,286.74 จุด ลดลง 14.28 จุด (-1.10%) มูลค่าซื้อขาย 42,297.68 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (4 ก.พ.) 570.13 ล้านบาท
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.(5 ก.พ.) ลดลง 1.67 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.3% ปิดที่ 71.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 ก.พ.) อยู่ที่ 2.76 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 33.57 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้ม Sideways จับตาตัวเลขเงินเฟ้อไทย-ผลประชุม BoE
– กกร.ลุ้นเศรษฐกิจไทยปี 68 ยังขยายตัว จับตาการกีดกันการค้า-เงินบาทแข็งยังสร้างผลกระทบ พร้อมคงตัวเลข GDP อยู่ที่ 2.4-2.9% ชี้รัฐบาลสั่งตัดไฟเมียนมาถือว่ามาถูกทาง แสดงจุดยืนได้ชัดเจน
– รมช.คลัง เผยในเร็ว ๆ นี้ จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อพิจารณาออกแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสสอง ซึ่งนอกจากโครงการดิจิทัล วอลเล็ตแล้ว จะมีการหารือถึงมาตรการอื่นที่เดินหน้าต่อด้วย หลังจากในการประชุมรอบที่แล้ว คณะกรรมการฯ ได้มอบหมายให้แต่ละส่วนงานไปคิดและเสนอต่อคณะอนุกรรมการฯ ด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจว่าต้องการใช้กลไกใด และนำเสนอมาที่ประชุมในครั้งนี้
– รายงานข่าวจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) จากผู้เกี่ยวข้องในเรื่องการปรับปรุงการคำนวณดัชนีเซ็ต 50 และเซ็ต 100 วันที่ 4-17 ก.พ.68 เพื่อลดผลกระทบของดัชนีจากหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ และทำให้ดัชนีมีการกระจายตัวของน้ำหนักหลักทรัพย์ที่เหมาะสมมากขึ้น จากปัจจุบันดัชนีดังกล่าวใช้วิธีการคำนวณแบบ คำนวณตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของแต่ละหลักทรัพย์ในดัชนีเป็นหลัก
– “สุริยะ” เดินหน้านโยบายเรือธงรัฐบาลลดค่าครองชีพการเดินทางประชน ประกาศลั่น! ภายในเดือน ก.ย.68 ขึ้นรถไฟฟ้าทุกสีทุกสายทาง 20 บาทตลอดสายแน่ หลังรัฐบาลทำคลอด พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ สเต็ปต่อไปตั๋วใบเดียวขึ้นได้ทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์ และเรือโดยสาร พร้อมรับจบถนนพระราม 2 ในตำนานภายในสิ้นปีนี้
หุ้นเด่นวันนี้
– BA (ฟินันเซียไซรัส) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 30 บาท ยังคงได้อานิสงส์บวกจากจำนวนนักท่องเที่ยวเดือนม.ค.ที่ทำ New High ประกอบกับแนวโน้มกำไร 4Q24 น่าจะดีกว่าที่คาดเดิมที่ 100-200 ล้านบาทเป็นระดับ 300 ล้านบาท จากค่าใช้จ่าย maintenance ที่น้อยกว่าคาด ส่วน 1Q25 มีโอกาสทำ new high จาก Passenger Samui ที่เติบโตดี และราคาหุ้นลงมาประมาณ 30% ตามสภาวะตลาด จึงเป็นโอกาสซื้อสะสม จาก valuation ประมาณ 9x P/E และ cashflow ทีดีที่สุดในรอบ 10 ปี โดยมี EBITDA ปีละ 7-8 พันล้านบาทต่อปี คาดสามารถจ่ายปันผลในระดับ 1 บาท/หุ้น (2.1 พันล้านบาท) คิดเป็น dividend yield 6%
– ADVANC (อินโนเวสท์เอ็กซ์) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21.90 บาท มองเป็นหุ้น Defensive กำไรเติบโตต่อเนื่อง 4Q67 คาดมีกำไรปกติ 8.7 พันลบ. เติบโต 23%YoY และ 3%QoQ หนุนจากรายได้การให้บริการหลักที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและการควบคุมต้นทุนที่ดี ส่งผลให้ปี 67 คาดกำไรปกติ 3.43 หมื่นลบ. เติบโต 20%YoY (สูงกว่าประมาณการของเรา 8.5%) และมองประมาณการกำไรปี 2568 ของเราอาจมี Upside
– BCPG (แลนด์แอนด์เฮาส์) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7.80 บาท คาดกำไรปกติ 4Q67F 224 ล้านบาท ลดลง -50%QoQ ตามฤดูกาลซึ่งกำไรจาก Hydro ในลาวจะลดลงมาก แต่เติบโตสูงมาก +91%YoY จากส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากและดีกว่าที่เคยประเมินก่อนหน้า ส่งผลให้กำไรปกติทั้งปี FY67F เติบโตสูง +26%YoY และดีกว่าประมาณการเดิม ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นอีกมากในปีนี้ ตามการปรับเพิ่ม Capacity revenue จากตลาดไฟฟ้ากลาง PJM ตามความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 68)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย