BAY มองแรงส่งเศรษฐกิจไทยไตรมาสสุดท้ายอ่อนแรง แต่ต้นปียังได้ท่องเที่ยวหนุน

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) โดยวิจัยกรุงศรี วิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงต้นปีว่า ยังคงได้แรงหนุนจากภาคท่องเที่ยว ขณะที่กระทรวงคลังประเมินเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนอาจเติบโตต่ำกว่าคาด

โดยภาคท่องเที่ยวแม้เผชิญความท้าทาย แต่ยังจะเป็นแรงหนุนสำคัญของเศรษฐกิจในช่วงต้นปี โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานเครื่องชี้เศรษฐกิจในไตรมาส 4 ปี 67 โดยภาพรวมปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามแรงขับเคลื่อนจากภาคท่องเที่ยว รวมถึงรายจ่ายลงทุนภาครัฐที่เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่มูลค่าการส่งออกไม่รวมทองคำอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนจากการส่งออกสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยี ด้านการบริโภคภาคเอกชนทรงตัว แม้ได้อานิสงส์จากมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 1 แต่ยอดขายยานยนต์หดตัว ส่วนการลงทุนภาคเอกชนปรับลดลงจากหมวดยานพาหนะและหมวดก่อสร้าง

วิจัยกรุงศรี ประเมินเศรษฐกิจในช่วงต้นปี 68 ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของภาคท่องเที่ยว แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบในระยะสั้นแต่แนวโน้มโดยรวมยังคงเป็นบวก จากข้อมูลในช่วงวันที่ 1-26 ม.ค. มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 3.02 ล้านคน (+19.3%YoY) สร้างรายได้ 150,650 ล้านบาท นำโดยนักท่องเที่ยวจีน (532,853 คน)

ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการ Easy-E-Receipt และมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท อาจให้ผลบวกไม่มาก และหากเทียบกับการแจกเงินในเฟส 1 วงเงินกว่า 1.4 แสนล้านบาท ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนซึ่งพบว่าการบริโภคในช่วงดังกล่าวทรงตัว (ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน -0.1%QoQ) สะท้อนกำลังซื้อที่อ่อนแอของผู้บริโภค

ด้านกระทรวงการคลัง คงประมาณการ GDP ปีนี้ขยายตัวที่ 3% จากปีก่อนที่คาดว่าจะโตเพียง 2.5% ล่าสุด สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 67 จากขยายตัว 2.7% เหลือเพียง 2.5%

ทั้งนี้ การปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 67 ของสศค. สะท้อนแรงส่งของเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนที่อาจอ่อนแอกว่าคาด สาเหตุสำคัญมาจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัว โดยเฉพาะการผลิตรถยนต์ที่ลดลง (ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในไตรมาส 4 ปี 67 หดตัว 2.0%YoY แต่หากไม่รวมอุตสาหกรรมยานยนต์ การผลิตจะขยายตัว 1.3%) อย่างไรก็ดี ยังต้องรอติดตามการประกาศตัวเลข GDP จากสภาพัฒน์ฯ ในวันที่ 17 ก.พ. นี้

สำหรับข้อมูลการเข้าร่วมในมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยยังมีผู้สนใจต่ำกว่าเป้าหมายอยู่มาก ทางการรายงานความคืบหน้าของมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย ผ่านโครงการคุณสู้เราช่วย โดยมีลูกหนี้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวคิดเป็นเพียง 25% ของเป้าหมายที่จะช่วยแก้หนี้ได้ 2.1 ล้านบัญชี (ข้อมูลถึง ณ วันที่ 28 ม.ค. จำนวน 576,496 บัญชี) ซึ่งชี้ว่าการบริโภคในปีนี้อาจเติบโตได้จำกัดจากแรงกดดันของปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอดูความคืบหน้าของโครงการนี้หลังสิ้นสุดการเปิดให้ลงทะเบียนภายในวันที่ 28 ก.พ. นี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.พ. 68)

Tags: , , ,
Back to Top