ดร.จื้อ-หง หลิน กรรมการอำนวยการ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) (KGI) เปิดเผยว่า บริษัทออก Depositary Receipt หรือ DR มาพร้อมกัน 2 หลักทรัพย์ ได้แก่ TaiwanAI13 สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนไปกับการเติบโตของอุตสาหกรรม AI ของโลก และ TaiwanHD13 เหมาะกับการลงทุนระยะยาวไปกับเศรษฐกิจไต้หวัน
เนื่องจากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเศษฐกิจไต้หวันเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยปีที่แล้วนิตยสาร Forbes จัดให้ไต้หวันเป็นประเทศที่มีความร่ำรวยอันดับที่ 14 ของโลก โดยพิจารณาจากค่า GDP ต่อประชากร การเติบโตนี้ขับเคลื่อนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและ AI ทั่วโลก โดยไต้หวันซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญของโลกใน AI Supply Chain ได้แก่ ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีผลิตชิพ Semiconductor นำโดยบริษัท TSMC ที่ผลิตชิพประมวลผลที่ทันสมัยที่สุดในโลก และยังมีบริษัทชั้นนำที่ผลิตอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยความจำ แผงวงจร เป็นต้น
ตลาดหุ้นไต้หวันจึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักลงทุนทั่วโลก อย่างไรก็ตามการลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวันของนักลงทุนต่างชาติมีข้อจำกัดหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะข้อจำกัดการถือหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของไต้หวันซึ่งถือว่าเป็นการเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ จึงเป็นสาเหตุว่าการลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวันทางอ้อมผ่านกองทุนอีทีเอฟจึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีสภาพคล่องสูง
บล.เคจีไอ ได้มีการออก DR 2 หลักทรัพย์ลงทุนในกองทุนอีทีเอฟที่ตลาดหุ้นไต้หวัน ประกอบด้วย
1. TaiwanAI13 เป็น DR ที่ลงทุนในกองทุนอีทีเอฟ KGI Taiwan Premium Selection AI 50 ETF (รหัส 00952.TW) โดยเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นแนวหน้าของยุคแห่ง AI Revolution โดยแบ่งเป็น 4 เสาหลักของการพัฒนา AI
Data: ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง รวบรวมฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งจะถูก AI algorithm นำไปใช้ประมวลผลต่อ โดยบริษัทเหล่านี้ยังเกี่ยวข้องกับธุรกิจการวิเคราะห์ฐานข้อมูล (Data analytic and data mining) และการให้บริการจัดเก็บฐานข้อมูล (Data storage solution)
Computing Power: ลงทุนในบริษัทที่พัฒนาและผลิตอุปกรณ์ชิพที่ใช้ขับเคลื่อนการประมวลผลของ AI เป็นบริษัทที่ผลิตชิพ GPU (Graphic Processing Unit) และ TPU (Tensor Processing Unit) รวมทั้งระบบประมวลผลประสิทธิภาพสูง
2. TaiwanHD13 เป็น DR ที่ลงทุนในกองทุนอีทีเอฟ KGI Taiwan Premium Selection High Dividend 30 ETF (รหัส 00915.TW) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ปันผลสูงในไต้หวัน และได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่เติบโตของไต้หวัน โดยกองทุนนี้ถือว่าเป็นกองทุนที่ทำผลตอบแทนได้ดีที่สุดในบรรดากองทุนประเภทปันผลสูงในไต้หวัน 2 ปีติดต่อกัน โดยมีผลตอบแทน 60.9% ในปี 66 และ 22.6% ในปี 67
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ม.ค. 68)
Tags: DR, เคจีไอ