หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์รอปัจจัยใหม่ รอลุ้นจีดีพีจีนวันนี้-จับตานโยบาย “ทรัมป์” สัปดาห์หน้า

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยที่ยังรอปัจจัยใหม่ หลังจากที่ตลาดรับข่าวรายงานเงินเฟ้อสหรัฐไปแล้ว ทำให้ยังขาดปัจจัยหนุนใหม่เข้ามา

ขณะเดียวกันยังรอติดตามปัจจัยการรายงานจีดีพีของจีนในเช้าวันนี้ หากออกมาดีจะเป็น Sentiment หนุนต่อตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน และยังรอติดตามการแถลงนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ในสัปดาห์หน้า ส่วนตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดมาเช้าวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ

โดยให้แนวต้าน 1,360 จุด แนวรับ 1,340 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (16 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,153.13 จุด ลดลง 68.42 จุด หรือ -0.16%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,937.34 จุด ลดลง 12.57 จุด หรือ -0.21% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,338.29 จุด ลดลง 172.94 จุด หรือ -0.89%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 19,499.10 จุด ลดลง 23.79 จุด หรือ -0.12% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,226.76 จุด ลดลง 9.27 จุด หรือ -0.29% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,454.10 จุด ลดลง 118.5 จุด หรือ -0.31%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ม.ค.) ที่ 1,352.56 จุด ลดลง 0.61 จุด (-0.05%) มูลค่าซื้อขาย 40,417.00 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (16 ม.ค.) 1,250.97 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.(16 ม.ค.) ลดลง 1.36 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 78.68 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ม.ค.) อยู่ที่ 0.17 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 34.58 ทรงตัวจากวานนี้ นลท.ชะลอลงทุนรอข้อมูลเศรษฐกิจตปท.-นโยบาย”ทรัมป์”

– ตลท. รับมาตรการซื้อขายหุ้นต้องทบทวนยกชุดหลังประกาศใช้เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะตลาดหุ้นไทย ส่วน “อัปติ๊ก” จะยกเลิกไปเลยต้องดูว่ามีประโยชน์ตลาดหุ้นปกติหรือไม่ อาจจะปรับไปใช้เฉพาะหุ้นรายตัวที่ราคาหุ้นผันผวนสวนทางกับพื้นฐานซื้อขาย

– “เผ่าภูมิ” เผย “เงิน 10,000” เฟสสอง โอน 27 ม.ค. เช็กสิทธิ 22 ม.ค. ผ่านแอปฯ ทางรัฐ คุณสมบัติอายุ 60 ขึ้นไป ณ วันที่ 15 ก.ย. 2567 แนะรีบผูกพร้อมเพย์ รัฐโอนซ้ำให้ 3 ครั้ง

– “สรวงศ์” เผยต้นปี 2568 ต่างชาติแห่เที่ยวไทยคึกคักเพิ่มขึ้น 11% ทำรายได้แล้วกว่า 6.6 หมื่นล้านบาท เกาหลีใต้-อินเดีย มาแรง ด้าน ททท. เร่งฟื้นความเชื่อมั่นตลาดจีนปมซิงซิงหายตัว

– กกพ.ยกแนวทางลดค่าไฟฟ้า 17 สตางค์ รีดไขมันจากกลุ่ม Adder และ FiT ให้เหลือเท่าอัตราผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก ชี้เอกชนผ่านจุดคุ้มทุนแล้ว ส่งผลค่าไฟเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย ยังไม่ถึง 3.70 บาทต่อหน่วย ตามความต้องการของพ่อนายกฯ ชี้สะท้อนต้นทุนจริง พร้อมหารือภาคนโยบายเพื่อทบทวนและเป็นทางเลือก

 

หุ้นเด่นวันนี้

– CRC (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 41.50 บาท แนวโน้มการดำเนินงานปกติช่วงไตรมาส 4/67 เรายังประเมินว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีแรงหนุนตาม Seasonal Effect ขณะที่ปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจะมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้น, ม.กระตุ้นการบริโภคของภาครัฐฯ, การเพิ่มขึ้นของยอดขาย Omnichannel, และ กำลังซื้อที่ฟื้นตัวในไทย/เวียดนาม ด้านค่าใช้จ่าย คาด SG&A ยังสามารถคุมได้ดีต่อเนื่องดังที่เห็นในช่วงที่ผ่านมา(เช่น การต่อรองขอลดค่าเช่า) ส่งผลให้ SG&A to Rev. ลดลง ส่วนช่วงถัดไปไตรมาส 1/68 ยังมีปัจจัยเสริมต่ออีกจากม. Easy E-Receipt และ ม.แจกเงิน 1 หมื่นบาท เฟส2

– CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 83 บาท เราประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/67 จะเติบโตแข็งแกร่งทั้ง q-q และ y-y ทั้งจาก 7-11 ที่คาดดีต่อเนื่องตามทิศทาง SSSG ที่เป็นบวก ขณะที่ CPAXT มีแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/67 ที่โต q-q และ y-y ดูดีกว่าที่เคยคาด เป็นปัจจัยหนุน ปัจจุบันเราคาดกำไร 2567-2568 ที่ 2.45 หมื่นลบ. +35%y-y และ 2.77 หมื่นลบ. +13%y-y ตามลำดับ ซึ่งเบื้องต้นอาจมี Upside ราคาหุ้นที่ปรับลงในช่วงก่อนหน้า ทำให้ปัจจุบันเทรด 2025PER เพียง 18 เท่า

– BA (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 26.87 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BA และแนะนำเก็งกำไรจากมูลค่าหุ้นที่ PE’68 ลดลงเหลือประมาณ 10 เท่า โดยคาดว่าจะสามารถทำกำไรในไตรมาส 4/2567 แม้จะมีค่าใช้จ่ายตามฤดูกาลสูงขึ้น ต่างจากไตรมาส 4 ของปีก่อน ๆ ที่ขาดทุนมาตลอด นอกจากนี้คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวในปี 2568 ที่คาดการณ์นักท่องเที่ยว 37.5-40 ล้านคนและโอกาสได้แรงหนุนจากการถ่ายทำซีรีส์ The White Lotus ซีซัน 3 ที่เกาะสมุย โดยคาดว่าไตรมาส 1/2568 จะเป็นช่วงไฮซีซันของสมุยส่งผลให้ BA มีโอกาสเติบโตแข็งแกร่งในปี 2568

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ม.ค. 68)

Tags: , , ,
Back to Top