ลุ้น! ปล่อยตัวประกันไทยในเฟสแรก หลังฮามาส-อิสราเอลบรรลุตกลงหยุดยิง

หนังสือพิมพ์ฮาเรตซ์ (Haaretz) ของอิสราเอลรายงานว่า รัฐบาลไทยและเนปาลได้เพิ่มความพยายามทางการทูตในการเจรจาปล่อยตัวพลเมืองของตนที่ถูกฮามาสจับเป็นตัวประกันในฉนวนกาซา ท่ามกลางความกังวลว่าตัวประกันต่างชาติจะไม่ได้รับการปล่อยตัวในเฟสแรกของข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮามาส

รายงานระบุว่า ในระหว่างเจรจาข้อตกลงหยุดยิง อิสราเอลมุ่งเน้นไปที่การปล่อยตัวพลเมืองชาวอิสราเอล แต่ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันที่เหลือทั้งหมดในระยะที่สองของข้อตกลง ซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติด้วย

ทั้งนี้ อิสราเอลและฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิงตัวและปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซา ซึ่งตามข้อตกลงนั้น ฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 33 คนในระยะแรก ซึ่งเป็นระยะเวลานานหกสัปดาห์ เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ โดยข้อตกลงจะเริ่มมีผลในวันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค.นี้ ส่วนรายละเอียดของระยะที่สองและสามจะมีการประกาศให้ทราบภายหลังจากสิ้นสุดระยะแรกของข้อตกลง

เจ้าหน้าที่ต่างประเทศรายหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับการเจรจาเผยกับนสพ.ฮาเรตซ์ว่า อิสราเอลเชื่อว่าฮามาสจะปล่อยตัวประกันชาวต่างชาติ ไม่ในระยะแรกก็ระยะที่สองของข้อตกลง เพื่อแสดงความเป็นมิตรต่อประเทศเหล่านั้น เช่นเดียวกับที่ทางกลุ่มเคยทำเช่นนั้นมาแล้วตามข้อตกลงปล่อยตัวประกันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566

 

ชะตาชีวิตตัวประกันต่างชาติ

ปัจจุบันฮามาสกักตัวพลเมืองไทย 8 คน ชาวเนปาล 1 คน และแทนซาเนีย 1 คน ซึ่งทั้งหมดถูกจับตัวไปจากชายแดนอิสราเอลที่อยู่ติดกับกาซา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยตัวประกันชาวไทยเป็นแรงงานในภาคเกษตรกรรม ส่วนตัวประกันชาวเนปาลและแทนซาเนียเดินทางไปอิสราเอลในเดือนกันยายน 2566 เพื่อศึกษาด้านการเกษตร

ก่อนหน้านี้ อิสราเอลประเมินว่า ฮามาสยืนกรานที่จะกักตัวประกันชาวต่างชาติไว้เพื่อให้ประเทศเหล่านี้ไปกดดันอิสราเอลต่อ เพื่อให้อิสราเอลหยุดทำสงครามหรือเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่กาซา อีกทั้งตัวประกันต่างชาติทั้งหมดเป็นชายหนุ่ม จึงไม่ได้ถูกรวมอยู่ในระยะแรกของข้อตกลง “ด้านมนุษยธรรม” ที่ฮามาสทำร่วมกับอิสราเอล ด้วยสถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลไทยและเนปาลจึงใช้ความสัมพันธ์กับประเทศตัวกลางเจรจาอย่างกาตาร์ สหรัฐฯ และอียิปต์ เพื่อให้มีการปล่อยตัวพลเมืองของตนในระยะแรกของข้อตกลง

แหล่งข่าวอิสราเอลรายหนึ่งที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้เผยว่า อิสราเอลคาดว่าฮามาสจะปล่อยตัวประกันเหล่านี้ในระยะที่สองของข้อตกลง แต่ขณะเดียวกันหากตัวประกันทั้งหมดถูกปล่อยตัวอย่างกะทันหันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในข้อตกลงเดือนพฤศจิกายน 2566 เมื่อฮามาสปล่อยตัวประกันชาวไทยจำนวนหนึ่งก่อนปล่อยตัวชาวอิสราเอล

นักการทูตต่างชาติประจำอิสราเอลกล่าวว่า ณ ขณะนี้ รัฐบาลต่างชาติได้รับแจ้งว่าพลเมืองของตนที่ถูกจับไปเป็นตัวประกันในกาซาไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่จะได้รับการปล่อยตัวในระยะแรก

นายธัน ประสาท บัณฑิต เอกอัครราชทูตเนปาลประจำอิสราเอล กล่าวว่า เนปาลทราบถึงข้อตกลงดังกล่าว พร้อมเผยว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของเนปาลได้พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศกาตาร์เพื่อขอความช่วยเหลือในการปล่อยตัวตัวประกันชาวเนปาล

“ผมกำลังทำทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ และเคาะประตูทุกบาน” เอกอัครราชทูตเนปาลประจำอิสราเอลกล่าว

 

ข้อตกลง 3 ระยะ

ทั้งนี้ อิสราเอลและฮามาสตกลงกันที่จะหยุดยิงและปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซา โดยข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะมีการแบ่งเป็น 3 ระยะ โดยในระยะแรก อิสราเอลและฮามาสจะทำการหยุดยิงเป็นเวลาหกสัปดาห์ ขณะที่ฮามาสจะปล่อยตัวประกันอิสราเอล 33 คน ซึ่งได้แก่เด็ก ผู้หญิง ผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บ รวมทั้งทหารหญิงบางคน เพื่อแลกกับการที่อิสราเอลปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์ราว 2,000 คน

นอกจากนี้ อิสราเอลจะถอนกำลังทหารออกจากระเบียงฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็นดินแดนซึ่งอยู่ระหว่างชายแดนฉนวนกาซาและอียิปต์ และอิสราเอลจะอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์กลับสู่ถิ่นฐานทางเหนือของฉนวนกาซา และอนุญาตให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซา รวมทั้งอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับบาดเจ็บให้ออกจากฉนวนกาซาเพื่อทำการรักษาทางการแพทย์

ส่วนการหยุดยิงในระยะที่สอง ฮามาสจะปล่อยตัวประกันที่เหลืออยู่ทั้งหมด แลกกับการที่อิสราเอลปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์อีกจำนวนหนึ่ง

และในระยะสุดท้าย ฮามาสจะคืนร่างของตัวประกันที่เสียชีวิตทั้งหมดให้แก่อิสราเอล เพื่อแลกกับแผนการฟื้นฟูบูรณะฉนวนกาซาเป็นเวลา 3-5 ปีภายใต้การกำกับดูแลของนานาชาติ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ม.ค. 68)

Tags: , , , ,
Back to Top