นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.โกลเบล็ก (GBS) เปิดเผยว่า ปีนี้ยังมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอกและภายในอยู่ ทำให้บริษัทฯ ตั้งเป้าในการรักษาระดับผลการดำเนินงานให้ใกล้เคียงกับปี 67 ผ่านการมุ่งเน้นการดูแลทรัพย์สินของลูกค้า และผลักดันเป้าหมายของทุกผลิตภัณฑ์ให้เติบโตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น บริการด้านการลงทุนในส่วนของกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund), การทำธุรกรรมซื้อขายตราสารหนี้ และสัญญาซื้อคืน (Sale buy back), ผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ (Underwriter) และให้บริการด้านการเป็นตัวแทนซื้อขายกองทุนรวม (Wealth Management)
ส่วนธุรกิจหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากค่านายหน้าจากโบรกเกอร์ ราว 30% ถือว่าเป็นสัดส่วนรายได้ที่มีความเหมาะสมแล้ว หรือไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท ในภาวะตลาดมีความผันผวน และการแข่งขันด้านค่าธรรมเนียมที่ปรับลดลงต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทก็มีการกระจายรายได้ไปในส่วนอื่นๆ มากขึ้น
“ปีนี้เราจะเน้นการผลักดันเป้าในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ให้มีการเติบโตขึ้น มากกว่าการเน้นจำนวนการเปิดบัญชี เนื่องจากค่าธรรมเนียมที่ลดลง พร้อมกับเน้นการดูแลผลตอบแทนการลงทุนของลูกค้าเป็นหลัก” นายธนพิศาล กล่าว
สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นไทยในปีนี้ นายธนพิศาล มองว่า ด้วยเศรษฐกิจไทย (GDP) ที่ยังคงเติบโตในระดับต่ำ และอาจไม่เห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเร็ว ๆ นี้ รวมถึงยังไม่มีข่าวดีเข้ามา แต่ยังเผชิญกับข่าวร้ายของบริษัทจดทะเบียนไทยอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ดัชนีฯ น่าจะฟื้นตัวได้ยาก ยกเว้นรัฐบาลมีความจริงจังต่อการดึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา เพื่อผลักดันตลาด ซึ่งจะต้องทำให้นักลงทุนเห็นภาพเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างมั่นคงได้จริง หรือมี New S-curve ของภาครัฐ ตรงนี้ก็อาจจะช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนกลับมาได้บ้าง
“นักลงทุนต้องเชื่อมั่นก่อนว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถเติบโตได้ ตลาดหุ้นไทยถึงจะฟื้นตัวได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครเชื่อมั่น รวมถึงปัจจุบันกฎเกณฑ์ของตลาดทุนก็มีค่อนข้างมาก เราเจอกับคดีเต็มไปหมด ทำให้ไปลดทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนลง ทั้งนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนรายย่อย ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปหาย เงินทุนไหลออก
ขณะที่มาตรการที่ออกมาก็ต้องแก้ต้นเหตุ ปลายเหตุ สร้างความโปร่งใส ต้องรีเซ็ตใหม่ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ต้องเอื้ออำนวยในการสร้างนักลงทุนออมระยะยาว หรือป้องกันไม่ให้นักลงทุนเจ็บตัวเหมือนในอดีต โดยเฉพาะการโดนโกง โดนบังคับขายหุ้น เป็นต้น ซึ่งตรงนี้เป็นการสร้างตลาดให้มันดี
แต่การสร้างความเชื่อมั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องอาศัยปัจจัยภายนอก อย่างรัฐบาล ที่ต้องทำให้มันเห็นภาพว่าเศรษฐกิจดีขึ้นจริง เพราะสุดท้ายจะสะท้อนกลับมาที่ตัวผลประกอบการของบริษัทหลักทรัพย์ให้มีการเติบโต” นายธนพิศาล กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ม.ค. 68)
Tags: GBS, ก.ล.ต., ตลท., ธนพิศาล คูหาเปรมกิจ, บล.โกลเบล็ก, หุ้นไทย