ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา มีค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของ PM2.5 ที่ตรวจวัดได้ 35.1-54.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม ซึ่งเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 67 พื้นที่
โดยพื้นที่ที่มีค่า PM2.5 อยู่ในระดับสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่
1. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 54.8 มคก./ลบ.ม.
2. เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 51.8 มคก./ลบ.ม.
3. เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 51.1 มคก./ลบ.ม.
4. เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 51.1 มคก./ลบ.ม.
5. เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 50.0 มคก./ลบ.ม.
6. เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 49.8 มคก./ลบ.ม.
7. เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 49.8 มคก./ลบ.ม.
8. เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 49.7 มคก./ลบ.ม.
9. เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 49.7 มคก./ลบ.ม.
10. เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 48.7 มคก./ลบ.ม.
โดยเนื่องจากช่วงวันที่ 24 ธ.ค.-1 ม.ค.68 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “ไม่ดี” และวันนี้เกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้น ทำให้มลพิษทางอากาศสามารถแพร่กระจายได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากนั้นการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “อ่อน-ดี” ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงได้ในระยะสั้น
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ส่วนกลุ่มเสี่ยง ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรม หรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ธ.ค. 67)
Tags: ฝุ่น PM2.5