ORI ยื่นไฟลิ่งขายหุ้นกู้ใหม่ 3 รุ่นดอกเบี้ยราว 4.40-5.15% เปิดขาย 10-13 ก.พ.68

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ [ORI] กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อผู้ลงทุนทั่วไป และ ผู้ลงทุนสถาบัน (Public Offering)คาดว่าจะเสนอขายในวันที่ 10-11 และ 13 ก.พ. 2568 นี้

หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 1 เดือน 8 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.40-4.50% ต่อปี

หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.85% ต่อปี

หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5.15% ต่อปี

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ทริสเรทติ้ง ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่”

ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.2567) บริษัทมียอดขายโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งกลุ่มบ้านจัดสรรภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI และคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL และบริษัทอื่นๆ ในเครือ รวมกันกว่า 26,849 ล้านบาท หรือคิดเป็นราว 77% ของเป้าหมายทั้งปี

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมียอดโอนกรรมสิทธิ์จากทั้งกลุ่มโครงการร่วมทุน (Joint Venture หรือ JV) และกลุ่มโครงการที่ไม่ได้ร่วมทุน (Non-JV) เข้ามาอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นยอดโอนกรรมสิทธิ์สะสม 9 เดือน 10,502 ล้านบาท เมื่อประกอบกับรายได้จากธุรกิจที่นอกเหนือจากที่อยู่อาศัยที่บริษัทได้วางรากฐานกระจายพอร์ตไว้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์ดัง 11 แห่ง ธุรกิจคลังสินค้าหลากทำเลเปิดดำเนินการแล้วรวมกว่า 270,414 ตร.ม. ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งเครือในช่วงดังกล่าวสะสมอยู่ที่ 1,318 ล้านบาท

“เรายังมียอดขายรอรับรู้รายได้ หรือ แบ็คล็อก ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 สูงถึง 47,329 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมาเราได้กระจายการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ตลอดจนหัวเมืองท่องเที่ยวศักยภาพอย่างภูเก็ต ซึ่งช่วยส่งเสริมให้เรามีทยอยรับรู้รายได้ได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องจนถึงราวปี 2571” นายพีระพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 4/2567 บริษัทจะมีโครงการร่วมทุนสร้างเสร็จใหม่ทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 7,430 ล้านบาท ซึ่งมีแบ็คล็อกจาก 3 โครงการดังกล่าวแล้วกว่า 80% ได้แก่ 1.ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น (Origin Plug & Play Sirindhorn Station) คอนโดมิเนียมเจาะตลาด Gen Y-Gen Z แห่งแรกของบริษัทในฝั่งธนบุรี ใกล้ MRT สิรินธร 2.โซ ออริจิ้น พหล 69 สเตชั่น (So Origin Phahol 69 Station) คอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว เพียง 50 เมตร และใกล้สนามบินดอนเมือง และ 3.ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม 4 (Knightsbridge Space Sukhumvit-Rama 4) คอนโดมิเนียมใกล้ BTS พระโขนง

นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า การกระจายพอร์ตธุรกิจของบริษัทไปสู่กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย เช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจคลังสินค้า ตลอดจนธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ถือเป็นทิศทางที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน โดยแนวโน้มของกลุ่มธุรกิจดังกล่าวเข้ามามีส่วนช่วยสร้างสมดุล และสร้างรายได้ให้แก่ให้พอร์ต โดยในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 2567 โรงแรมในเครือมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยถึง 75% ธุรกิจคลังสินค้ามีอัตราการเช่าเฉลี่ยถึง 90%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ธ.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top