หัวหน้าหน่วยสืบสวนของสหประชาชาติ (UN) ได้ส่งหนังสือถึงรัฐบาลชุดใหม่ของซีเรียเพื่อแสดงความพร้อมที่จะร่วมมือและเดินทางเข้าประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานที่อาจเชื่อมโยงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลชุดก่อน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ กลุ่มกบฏซีเรียได้โค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด พ้นจากอำนาจที่ครองมาอย่างยาวนาน พร้อมทั้งบุกเปิดเรือนจำและสำนักงานรัฐบาล สร้างความหวังใหม่ในการนำผู้กระทำผิดมาลงโทษสำหรับอาชญากรรมที่เกิดขึ้นตลอดช่วงสงครามกลางเมืองซีเรียที่ยาวนานกว่า 13 ปี
“สิ่งแรกที่เราต้องการทำคือการเข้าไปสำรวจและประเมินขอบเขตของปัญหา ดูว่ามีหลักฐานอะไรบ้างที่เราสามารถเข้าถึงได้ และจากนั้นพิจารณาว่าเราจะช่วยเก็บรักษาหลักฐานเหล่านั้นได้ดีที่สุดอย่างไร” โรเบิร์ต เปอติต หัวหน้าหน่วยงาน International, Impartial and Independent Mechanism (IIIM) ของสหประชาชาติ กล่าวระหว่างแถลงข่าว ณ กรุงเจนีวา พร้อมเสริมว่า “ตอนนี้เรามีโอกาสที่จะเข้าถึงหลักฐานในระดับสูงสุดของระบอบการปกครอง”
เปอติตกล่าวเสริมว่า มีหลักฐานบางส่วนสูญหายในช่วงการเปลี่ยนผ่านอำนาจ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินระดับความเสียหาย พร้อมทั้งแสดงความหวังว่า “ทั้งรัฐบาลชั่วคราวและภาคประชาสังคมของซีเรียจะตระหนักถึงความสำคัญของการเก็บรักษาหลักฐานเหล่านี้”
ทั้งนี้ IIIM ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2559 เพื่อสอบสวนและช่วยดำเนินคดีอาชญากรรมร้ายแรงที่เกิดขึ้นในซีเรียตั้งแต่ปี 2554 โดยปัจจุบันได้รวบรวมข้อมูลแล้วกว่า 283 เทราไบต์ และกำลังร่วมมือกับอัยการในหลายประเทศ เช่น เบลเยียม ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา ในการสืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับซีเรีย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ธ.ค. 67)
Tags: UN, ซีเรีย, สหประชาชาติ, อาชญากรรมสงคราม