เวียดนามจัดงานแฟร์โชว์อาวุธระดับโลก 19-22 ธ.ค.นี้ หวังดันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

เวียดนามเตรียมโชว์อาวุธที่ผลิตเองในงานแสดงยุทโธปกรณ์ระดับนานาชาติที่กรุงฮานอยในวันที่ 19-22 ธ.ค.นี้ โดยหวังผลักดันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมลุ้นส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า งานนี้มีผู้ร่วมจัดแสดงเกือบ 250 รายจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งบริษัทอาวุธยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ, ยุโรป, ตุรกี และแม้แต่ประเทศที่กำลังมีสงครามอย่างอิสราเอล, อิหร่าน, รัสเซีย และยูเครน

ทั้งนี้ เวียดนามเป็นประเทศผู้นำเข้าอาวุธรายใหญ่ โดยเฉพาะจากรัสเซีย โดยเวียดนามทุ่มทุนพัฒนาศักยภาพด้านการป้องกันประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งกับจีนเรื่องเขตแดนในทะเลจีนใต้

ล่าสุด เวียดนามหันมามุ่งเน้นพัฒนาอุตสาหกรรมอาวุธภายในประเทศอย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าส่งออกผลิตภัณฑ์ทางทหาร ตามที่เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมได้แถลงไว้หลายครั้ง

บริษัท Viettel รัฐวิสาหกิจด้านการป้องกันประเทศของเวียดนาม และบริษัทอื่น ๆ ในประเทศ จะขนอาวุธมาโชว์ในงานนี้ ทั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ, โดรน, เรดาร์ป้องกันภัยทางอากาศ, ยานเกราะ และปืนใหญ่

ด้านกระทรวงกลาโหมอิหร่านจะยกทัพมาเปิดพาวิลเลียนทั้งหลัง โดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากบูธของบริษัทอาวุธชื่อดังจากอิสราเอลอย่าง Israel Aerospace Industries และ Rafael Advanced Defense Systems

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทจากรัสเซียมาเปิดบูธอีกหลายสิบราย รวมทั้ง Motor Sich ผู้ผลิตเครื่องยนต์เครื่องบินจากยูเครน

ด้านตุรกีก็ส่งบริษัทด้านการป้องกันประเทศมาถึง 12 บริษัท อาทิ Aselsan, Turkish Aerospace Industries และ Roketsan นับเป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งตัวแทนมาร่วมงานมากที่สุด

ส่วน Norinco จะเป็นหนึ่งในสองบริษัทจากจีนที่เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรก

ด้านบริษัทอาวุธยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ อย่าง Lockheed Martin, Boeing และ Textron Aviation Defense ก็มาเปิดบูธในงานนี้เช่นกัน โดยทั้งหมดกำลังเจรจากับทางการเวียดนามเรื่องการขายเฮลิคอปเตอร์ ส่วน Lockheed Martin กำลังลุ้นปิดดีลขายเครื่องบินลำเลียง C-130 Hercules ให้เวียดนาม ตามที่แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์

ขณะเดียวกัน บริษัทชั้นนำจากยุโรป ไม่ว่าจะเป็น Airbus, BAE Systems จากอังกฤษ, Rheinmetall จากเยอรมนี, Leonardo จากอิตาลี และ Thales Group จากฝรั่งเศส ก็เข้าร่วมงานนี้ด้วยเช่นกัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ธ.ค. 67)

Tags: ,
Back to Top