พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต โดยมาตรวจมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และให้ความสนใจเกี่ยวกับการเพิ่มศักยภาพการตรวจทางห้องปฏิบัติการสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการเตรียมการต่างๆ ของสาธารณสุขตามมาตรการที่ได้มีการผ่อนผันไปแล้วทั้งหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าจะไม่พบผู้ป่วยอีกเลย แต่ยืนยันว่า ทุกครั้งที่มีปัญหาเกิดขึ้นไม่ว่าที่ไหนก็ตาม จะมีการติดตามตรวจสอบภายหลังได้ทุกราย ไม่ว่ามาจากที่ไหนก็ต
“วันนี้ก็จะเร่งรัดหามาตรการนำคนต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพราะพื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่แห่งการท่องเที่ยว และเห็นว่าบ้านเมืองเงียบสงบ จะต้องหานักท่องเที่ยวเข้ามา เพื่อทำให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น พร้อมหามาตรการเพิ่มเติมเรื่องการเที่ยวคนละครึ่ง รวมถึงเรื่องการค้าขายก็จะคิดมาตรการออกมา”
นายกรัฐมนตรีกล่าว
พร้อมระบุว่า สิ่งสำคัญตอนนี้คือจะหาแนวทางให้คนต่างชาติเข้ามาได้อย่างไร ซึ่งต้องมีการกักตัว 14 วัน และปัญหาคือห้องพักมีโรงแรมจำกัด จึงอาจจะไม่สามารถรับคนใหม่ได้อีกเลย เพราะต้องพักถึง 14 วัน ดังนั้น จึงได้ให้ไปดูว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะลดเวลากักตัวเหลือ 10 วัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องสร้างความเข้าใจให้ถูกต้อง ไม่จับผิดกันไปกันมา
“ต้องเชื่อมั่นสาธารณสุขและแพทย์ของเราที่เป็นอันดับ 1 ของโลกในตอนนี้ ไม่เช่นนั้นก็จะทำอะไรไม่ได้เลย เศรษฐกิจไปไม่ได้แล้ว ใครจะทำได้ทำอย่างไร จะให้คนในประเทศเดินทางมาเที่ยวสมุยและภูเก็ต จะหาวิธีการอย่างไรในการที่จะเดินทางมา และหาที่พักราคาถูก เครื่องบินราคาถูก เพื่อนำคนแต่ละภูมิภาคมาท่องเที่ยว และต้องดูว่ารัฐบาลดูแลได้หรือไม่ เพื่อจะนำการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งหน้าที่ของราชการจะต้องคิดเรื่องเหล่านี้ ผมได้มอบหมายไปแล้วในการลงพื้นที่ คนในชุมชนก็ดีใจที่นายกฯ ไป ดังนั้นขอให้เห็นใจเถอะ คนไทยด้วยกัน บ้านเมืองสงบเรียบร้อยก็จะได้ทำอะไรต่างๆ ได้”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (2 พ.ย. 63)
Tags: COVID-19, Quarantine, กักตัว, การเดินทางระหว่างประเทศ, ท่องเที่ยว, นายกรัฐมนตรี, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, โควิด-19