นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าอาจมีจังหวะลุ้นรีบาวด์สลับกลับมาแกว่งไซด์เวย์เพื่อรอปัจจัยใหม่ โดยนักลงทุนยังคงรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อประเมินทิศทางการลดดอกเบี้ยในปีหน้า
ขณะที่ปัจจัยในประเทศวันนี้รอติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมออกมาหรือไม่ รวมถึงพรุ่งนี้มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยที่ต้องติดตามว่าจะยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.25% หรือจะลดดอกเบี้ยต่อจากครั้งก่อน ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดมาเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น
โดยให้แนวต้าน 1,430 จุด แนวรับ 1,415 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (16 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,717.48 จุด ลดลง 110.58 จุด หรือ -0.25%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,074.08 จุด เพิ่มขึ้น 22.99 จุด หรือ +0.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,173.89 จุด เพิ่มขึ้น 247.17 จุด หรือ +1.24%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวที่ระดับ 39,589.65 จุด เพิ่มขึ้น 132.16 จุด หรือ +0.33% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 19,678.03 จุด ลดลง 117.46 จุด หรือ -0.59% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,381.81 จุด ลดลง 4.52 จุด หรือ -0.13%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ธ.ค.) ที่ 1,419.72 จุด ลดลง 11.95 จุด (-0.83%) มูลค่าการซื้อขายราว 40,533.11ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (16 ธ.ค.) 1,268.96 ล้านบาท
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. (16 ธ.ค.) ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 70.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ธ.ค.) อยู่ที่ 5.28 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 34.08 อ่อนค่าเล็กน้อย ตลาดจับตาสัญญาณดอกเบี้ยธนาคารกลางสำคัญนัดส่งท้ายปี
– จับตาสัปดาห์แห่งการประชุมแบงก์ชาติทั่วโลกส่งท้ายปี 2567 คาด “เฟด” จะลดดอกเบี้ยต่อ 0.25% ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี พร้อมส่งสัญญาณชะลอลดดอกเบี้ยปีหน้าหลังเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตแข็งแกร่ง กังวลนโยบายทรัมป์ที่อาจกระตุ้นเงินเฟ้ออีก “อีซีบี-ยุโรป” แห่ลดดอกเบี้ยส่งท้ายปี “คลัง” หวัง กนง.ลดดอกเบี้ยอีก นักเศรษฐศาสตร์คาดไทยคงดอกเบี้ย 2.25%
– รองนายกฯ และรมว.คลัง เผยอยากเห็น กนง.ปรับลดดอกเบี้ยลงอีก แจงเซ็นผ่านคุณสมบัติประธานบอร์ด ธปท.และผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว แต่ยังไม่ชงเข้า ครม.สัปดาห์นี้ ส่งซิกต่ออายุกองทุน SSF ด้าน “จุลพันธ์” ระบุดิจิทัลเฟส 2 จ่ายเร็วกว่ากำหนดเริ่มเดือน ม.ค.68 เตรียมประกาศมาตรการของขวัญปีใหม่เร็วๆ นี้ เน้นกระตุ้นจับจ่ายใช้สอย
– สก.กทม. เล็งยื่นยุบ “กรุงเทพธนาคม” หลังกิจการขาดทุนยับ ล่าสุดปี 66 ขาดทุนสุทธิ 340 ล้านบาท ปี 65 ขาดทุนสุทธิ 4.61 ล้านบาท ระบุกินแต่หัวคิวจากรัฐ ล่าสุดยังสร้างปัญหาไม่เลิก ยื่นอุทธรณ์เบรกจ่ายหนี้สายสีเขียว 1.4 หมื่นล้านบาท หวั่นถ้าเกินกำหนดจ่ายหนี้บีทีเอส 22 ม.ค. 68 ภาระดอกเบี้ยพุ่งวันละ 7 ล้านบาท ผู้ว่ากทม.มีสิทธิผิดมาตรา 157 เอกชนฟ้องเรียกค่าเสียหายกทม.ตามมา ขณะที่ KT ลอยตัว ประธานศึกษาปัญหาสายสีเขียวหารือ “ชัชชาติ” วางแนวทางจ่ายหนี้ O&M ที่เหลืออีกกว่า 3 หมื่นล้านบาท
– ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศรายชื่อ 228 บจ. ในหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 67 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พบบริษัทขนาดกลาง-เล็กที่มีมาร์เก็ตแคปไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ผ่านเกณฑ์ถึง 106 บริษัท เพิ่มจากปีก่อน 43% ด้าน DITTO ได้เรตติ้งสูงสุด AAA ส่วนเจมาร์ทได้ระดับ “A” ส่วน TLI JMT SGC เข้ามาด้วย จับตาทั้งหมดจะเข้าคำนวณดัชนี SETESG รอบถัดไป
– สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) มั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 68 ทะยานเกิน 3% หุ้นไทยคึกคัก เป้า 1,614จุด ท่องเที่ยวบูม-ส่งออกฟื้น-ทุนต่างชาติไหลเข้า ดัน พร้อมแรงหนุน ESG ที่มาแรงต่อเนื่อง ด้าน สมาคมบริษัทจัดการฯ (AIMC) มั่นใจ Thai ESG สิ้นปีนี้แตะ 28,000-30,000 ล้านบาท
– ธปท. เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินผ่าน “โมบายแบงกิ้ง” หวังสกัดภัยการเงิน มิจฉาชีพ เพิ่มระบบป้องกันการโอนเงินจำนวนมากต้องสแกนใบหน้าทุกครั้ง
หุ้นเด่นวันนี้
– CRC (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 39.00 บาท มีมุมมองเชิงบวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงทั้งในและต่างประเทศ คาดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะลดลง 2 ครั้งปีหน้าเป็นประโยชน์ต่อ CRC ที่มีหนี้สินแบบอัตราลอยตัวถึง 90% ผลประกอบการไตรมาส 4/67 คาดได้แรงหนุนจากการเปิด “เซ็นทรัลชิดลม” หลังปรับปรุง ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจแฟชั่น-ท่องเที่ยวปลายปี มูลค่าหุ้นน่าสนใจที่ Fwd PE’68 ที่ 22 เท่า
– NSL (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 43 บาท โมเมนตัมกำไรไตรมาส 4/67 คาดว่ายังแข็งแกร่งต่อเนื่อง เติบโตทั้ง q-q และ y-y New High หนุนจากทั้งปัจจัยฤดูกาล รวมถึงผลบวกจากสินค้าใหม่ๆ ขายดี เช่น ช็อกโกแลตดูไบของ Bake a Wish ขณะที่ บ.ลูกคาดทยอยขาดทุนลดลงต่อเนื่อง เราคาดกำไรปี 67-68 ที่ 523 ลบ. +57% y-y และ 591 ลบ. +13% y-y ตามลำดับ ราคาหุ้นที่พักตัวลงเกือบ 20% จาก High และทำให้ 2025PER ลดลงเหลือเพียง 15.3 เท่า เป็นโอกาสเข้าลงทุนอีกครั้ง
– SNPS (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 6.34 บาท กำไรสุทธิ 9 เดือนปี 67 อยู่ที่ 56 ลบ. +82%YoY ตามรายได้ขายที่ +22%YoY เพิ่มจากรายได้สารสกัดที่ขยายฐานลูกค้าไปกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง และรายได้ ODM โตจากฐานต่ำในปีก่อนที่ผลิตภัณฑ์หมด Product Life Cycle ปีนี้พัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมาแล้ว ช่วงถัดไปคาดยังมีโมเมนตัมการสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง และระยะกลางมีปัจจัยหนุนจากการลงทุนเพิ่มในเทคโนโลยีการสกัดขั้นสูง Phytoextraction Technology กำลังผลิต 2.8 หมื่นkg./ปี คาดเริ่มใช้งานในปี 69 และมีรายได้จากการขอทุนวิจัยจากหน่วยงานภายนอก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ธ.ค. 67)
Tags: ตลาดหุ้นไทย, วีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา, หุ้นไทย