ผลสำรวจล่าสุดในวันนี้ (16 ธ.ค.) เผยว่า กิจกรรมทางธุรกิจในกลุ่มประเทศยูโรโซนมีอัตราการชะลอตัวที่ลดลงในเดือนธ.ค.นี้ โดยเฉพาะภาคบริการที่มีการเติบโตอีกครั้ง ซึ่งช่วยชดเชยสถานการณ์หดตัวยืดเยื้อในภาคการผลิต
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของยูโรโซนจาก HCOB ซึ่งจัดทำโดย S&P Global เพิ่มขึ้นเป็น 49.5 ในเดือนธ.ค. จาก 48.3 ในเดือนพ.ย. ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงเหลือ 48.2
ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่ในระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
รายงานระบุว่า ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นเพิ่มขึ้นแตะ 51.4 ในเดือนธ.ค. จาก 49.5 ในเดือนพ.ย. สวนทางกับที่โพลของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าตัวเลขจะทรงตัว
อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นอยู่ที่ 45.2 ในเดือนธ.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ย. และต่ำกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อยที่ 45.3 โดยอยู่ระดับต่ำกว่า 50 ติดต่อกันมาตั้งแต่กลางปี 2565
“สถานการณ์ช่วงสิ้นปีนี้ดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ภาคบริการกลับมาเติบโตในระดับที่สังเกตเห็นได้ แม้จะไม่ถึงกับคึกคักมากนัก คล้ายกับช่วงเดือนก.ย.และต.ค.” ไซรัส เดอ ลา รูเบีย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งธนาคารฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) กล่าว
“ภาคการผลิตยังอยู่ในภาวะย่ำแย่ ผลผลิตลดลงในเดือนธ.ค.ในอัตราที่เร็วกว่าช่วงใด ๆ ของปีนี้ และยอดคำสั่งซื้อใหม่ก็ลดลงด้วย” เดอ ลา รูเบีย กล่าวเสริม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 67)
Tags: PMI, ยูโรโซน