ประชาชนนับล้านในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียได้รับคำเตือนให้เตรียมพร้อมรับมือกับคลื่นความร้อนรุนแรงและความเสี่ยงที่อาจเกิดเพลิงไหม้
รายงานระบุว่า รัฐวิกตอเรียซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และบางพื้นที่ในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย อาจมีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสในวันนี้ (16 ธ.ค.) ส่งผลให้มีการออกคำเตือนฉุกเฉินเป็นวงกว้าง ขณะที่ในเมืองเมลเบิร์น เมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย อุณหภูมิคาดว่าจะพุ่งสูงแตะ 41 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้วันนี้เป็นวันที่ร้อนที่สุดในเดือนธ.ค. นับตั้งแต่ปี 2562
นอกจากนี้ ทางการได้ประกาศห้ามจุดไฟทุกชนิดในเกือบทั้งรัฐวิกตอเรีย และหน่วยดับเพลิงทั่วรัฐได้ยกระดับการเตรียมพร้อมสูงสุด โดยนักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า พายุฟ้าคะนองในอากาศแห้งอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดเพลิงไหม้
เจสัน เฮฟเฟอร์แนน ผู้บริหารสูงสุดของหน่วยดับเพลิงชนบท (CFA) แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อค่ำวานนี้ว่า การรวมตัวของอากาศที่ร้อนจัดและลมแห้งจะเสี่ยงให้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงในพื้นที่ตะวันตกของรัฐวิกตอเรีย เนื่องจากการควบคุมเพลิงจะทำได้ยาก และจะทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว
รายงานระบุว่า ทางการได้ส่งเครื่องบินโบอิง 737 ไฟร์ไลเนอร์ (737 Fireliner) ซึ่งสามารถบรรทุกน้ำหรือสารหน่วงไฟ 15,000 ลิตร ไปประจำการในรัฐแล้ว
ด้านคริส ฮาร์ดแมน หัวหน้าหน่วยดับเพลิงจากหน่วยจัดการไฟป่าวิกตอเรีย กล่าวว่า ได้มีการเคลื่อนย้ายเครื่องบินดับเพลิง 54 ลำไปยังจุดต่าง ๆ ทั่วรัฐ และพร้อมปฏิบัติการในพื้นที่เสี่ยง
ทั้งนี้ รัฐบาลรัฐวิกตอเรียได้ออกคำเตือนด้านสุขภาพเกี่ยวกับอากาศที่ร้อนจัด แนะให้ประชาชนอยู่ในร่ม และขอให้ช่วยดูแลผู้ที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 67)
Tags: คลื่นความร้อน, ออสเตรเลีย