รัฐบาลใส่ใจแรงงานไทยในต่างแดน พร้อมดูแลสิทธิประโยชน์หลังกลับประเทศ

นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เร่งรัดติดตามการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ เพื่อนำรายได้เข้าประเทศและส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำ โดยนับตั้งแต่เดือน ม.ค.- พ.ย. 67 มีจำนวนคนไทยที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปทำงานต่างประเทศแล้วมากกว่า 86,000 คน และมีรายได้ที่ส่งกลับผ่านระบบของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 246,379 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นมูลค่าที่สูงมาก

ในปัจจุบัน มีแรงงานไทยทำงานอยู่ทั่วโลก 134 ประเทศ 144,617 คน โดย 5 อันดับแรก ที่คนไทยไปทำงานมากที่สุด ได้แก่ ไต้หวัน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น อิสราเอล และมาเลเซีย ตามลำดับ

โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า นอกจากรายได้และสิทธิประโยชน์ที่แรงงานไทยได้รับในระหว่างทำงานในต่างประเทศแล้ว สิ่งที่หลายคนไม่ทราบ คือ การยื่นขอรับสิทธิประโยชน์เมื่อกลับมายังประเทศไทยแล้ว เช่น การขอคืนภาษีเงินได้ เงินบำเหน็จบำนาญชราภาพ ค่าจ้างค้างจ่ายจากนายจ้าง เป็นต้น ซึ่งหลายประเทศที่แรงงานไทยไปทำงาน จะให้สิทธิประโยชน์เหล่านี้ตามกฎหมายของเขา โดยเฉพาะไต้หวันที่แรงงานไทยไปทำงานมากที่สุด

“ตัวอย่างเช่น การยื่นเรื่องขอรับบำเหน็จชราภาพจากกองทุนประกันภัยแรงงาน สำหรับแรงงานไทยในภาคการผลิต และก่อสร้างที่เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว และมีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับค่าจ้างเฉลี่ย × อายุการเป็นสมาชิกของกองทุน โดยยื่นเอกสารหลักฐาน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน (ภาษาอังกฤษ) หนังสือเดินทาง สมุดบัญชีธนาคารสำเนา หนังสือสัญญาทำงาน และอื่น ๆ ได้ที่สำนักงานแรงงานทุกจังหวัด หรือสำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน กรุงเทพฯ” โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าว

พร้อมระบุว่า สิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มักทราบข้อมูลแบบปากต่อปาก โดย รมว.แรงงาน ต้องการให้ทุกหน่วยงานช่วยกันประชาสัมพันธ์ข้อมูล เพราะเป็นสิทธิประโยชน์ที่ประชาชนพึงจะได้รับ

“ในปัจจุบัน มีบริษัทหรือนายหน้าเข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อเชิญชวนแรงงานไทยให้ยื่นขอรับบำเหน็จชราภาพ ผ่านบริษัทของตนและเรียกเก็บส่วนแบ่งจากเงินชราภาพนั้น จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอให้ติดต่อกับหน่วยงานของกระทรวงแรงงานโดยตรงจะดีที่สุด” นายภูมิพัฒน์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 67)

Tags: ,
Back to Top