“สุรเกียรติ์” เตือนประเทศไทยไม่พร้อมรับมือ “ดิสรับชั่น” ครั้งใหญ่จาก 6 ปัจจัยพลิกโลก

ศาสตราจารย์พิเศษ สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “Unraveling Thailand’s Future ไขรหัสอนาคตประเทศไทย” ในงานสัมมนา Follow the Future 2024 ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายสำคัญที่ประเทศไทยกำลังเผชิญท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเตือนว่าประเทศไทยยังขาดการเตรียมความพร้อมอย่างจริงจังในการรับมือกับดิสรับชั่น (Disruption) ซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน 6 ด้านที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และการดำเนินชีวิตทั่วโลก ดังนี้

เทคโนโลยี (Technology Disruption): การพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีล้ำสมัยกำลังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการทำงานอย่างต่อเนื่อง หลายคนกังวลว่า AI จะเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ “Technology Disruption มาปั่นป่วนโลกพอสมควร และยังเดินต่อไปไม่หยุด”

ประชากร (Demographic Disruption): การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่รวดเร็วในประเทศไทยสร้างความท้าทายทั้งด้านเศรษฐกิจและระบบสวัสดิการ ประเทศไทยได้รับการประเมินว่ามีความพร้อมต่ำที่สุดในเอเชียในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างประชากร

โรคระบาด (Pandemic Disruption): วิกฤตโควิด-19 แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยและหลายประเทศในโลกยังขาดการเตรียมความพร้อมสำหรับภัยสุขภาพระดับโลก โดยประเทศไทยใช้เวลาฟื้นตัวถึง 3 ปี จากผลกระทบของโรคระบาด ถือว่านานที่สุดเมื่อเทียบกับหลายประเทศ

สิ่งแวดล้อม (Environment Disruption):ภัยธรรมชาติเช่นน้ำท่วมฉับพลันรุนแรงขึ้นและสร้างความเสียหายที่ยาวนานมากขึ้น เช่น กรณีภัยน้ำท่วมทางภาคเหนือและยะลา สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ต้องการการตอบสนองอย่างเร่งด่วน

การศึกษา (Education Disruption): ระบบการศึกษาไทยกำลังเผชิญความล้าหลัง หลักสูตรการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ขณะที่การศึกษานอกระบบ (Non-degree program) เริ่มมีความสำคัญมากขึ้น ท่ามกลางคุณภาพการศึกษาของไทยตกต่ำลง ส่วนหลักสูตรมหาวิทยาลัยไม่อาจสอนในสิ่งที่ตอบโจทย์กับโลกยุคปัจจุบัน อาจารย์ไม่สามารถเป็นโค้ชได้เพราะไม่มีประสบการณ์ ซึ่งเป็นวาระสำคัญที่ต้องเร่งปรับคุณภาพการศึกษา

การเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ (Political & Geopolitical Disruption): ความปั่นป่วนทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครน ความตึงเครียดในเอเชีย และนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทย

นายสุรเกียรติ์ ระบุว่าประเทศไทยยังขาดความพร้อมในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและความปั่นป่วนในอนาคต โดยเฉพาะในกรณีที่สหรัฐฯ มีผู้นำคนใหม่อย่างว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีแนวโน้มใช้นโยบายกีดกันการค้าฝ่ายเดียว แทนการพึ่งพาระบบพหุภาคีขององค์การการค้าโลก โดยสถานการณ์นี้อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างรุนแรง เนื่องจากไทยมีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ กว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจกลายเป็นเป้าหมายของมาตรการกีดกันทางการค้าในอนาคต

พร้อมเน้นย้ำว่าภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันอย่างเป็นระบบเพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ พร้อมเสริมสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาค เช่น อาเซียนบวกสาม เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในเวทีการเจรจาระหว่างประเทศ

“ประเทศไทยไม่สามารถต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงนี้ได้เพียงลำพัง เราต้องสร้างความร่วมมือภายในประเทศและในระดับภูมิภาคอย่างเข้มแข็งเพื่อก้าวข้ามความท้าทายและเตรียมพร้อมรับมือกับโลกอนาคต” นายสุรเกียรติ์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top