พาน กงเซิ่ง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) ยืนยันว่า PBOC จะใช้นโยบายด้านการเงินเพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในปีหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจะกลับคืนสู่ทำเนียบขาวในช่วงต้นปีหน้า
ผู้ว่าการ PBOC กล่าวในการประชุมด้านการเงินซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) ว่า PBOC จะยังคงยึดมั่นในจุดยืนการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในปี 2568 พร้อมกับย้ำว่าจะใช้นโยบายที่สามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจ (counter-cyclical policy) และจะใช้เครื่องมือทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและรักษาสภาพคล่องให้เพียงพอ นอกจากนี้ PBOC จะเดินหน้าปรับลดต้นทุนการกู้ยืมสำหรับบริษัทเอกชนและผู้อยู่อาศัย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทางนโยบายการเงินของจีนนั้น จะมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจจีนในปีหน้า หลังจากทรัมป์เตือนว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% เมื่อเขาเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันแรก โดยสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของจีนซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักทางเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจาก PBOC และหน่วยงานอีกหลายแห่งของจีนได้ออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและตลาดหุ้นในช่วงปลายเดือนก.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 67)
Tags: PBOC, จีน, ธนาคารกลางจีน, พาน กงเซิ่ง, เศรษฐกิจจีน