เจ้าหน้าที่ระดับสูง 3 คนของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แสดงความชัดเจนถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า แต่ไม่ชี้ชัดว่าจะสนับสนุนเฟดลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. นี้หรือไม่
คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด กล่าวในการประชุมที่วอชิงตันเมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) ว่า เขามีแนวโน้มที่จะโหวตสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. นี้ แต่กล่าวเสริมว่า ข้อมูลที่จะมีการเปิดเผยก่อนหน้านั้นอาจทำให้เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันดังกล่าว
“ตอนนี้ ผมโน้มเอียงไปที่การสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.” วอลเลอร์กล่าว “แต่การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลที่เราจะได้รับก่อนหน้านั้นว่าจะสร้างความประหลาดใจและเปลี่ยนแปลงการคาดการณ์ของผมเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อหรือไม่”
ทางด้านจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก และ ราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา แสดงความเห็นทำนองเดียวกันว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อน่าจะยังคงชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟด ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก อย่างไรก็ดี วิลเลียมส์และบอสติกไม่ได้บอกชัดว่า พวกเขาสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. หรือไม่
“ทิศทางของนโยบายการเงินจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ” วิลเลียมส์กล่าวในการประชุมที่นิวยอร์ก
ขณะที่บอสติกกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า เขาจะรอดูข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการประชุมครั้งต่อไป
“ผมยังคงเปิดทางเลือกไว้” บอสติกกล่าว
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะมีการเปิดเผยก่อนการประชุมเฟดวันที่ 17-18 ธ.ค.นั้น รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ (6 ธ.ค.) และเป็นข้อมูลที่ตลาดจับตาอย่างใกล้ชิด
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ของสหรัฐฯ จะพุ่งขึ้น 183,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 12,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ย.จะทรงตัวที่ระดับ 4.1%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 67)
Tags: ธนาคารกลางสหรัฐ, เฟด