กองทุน ETF ในสหรัฐฯ ที่ลงทุนโดยตรงในบิตคอยน์และอีเธอร์กำลังเป็นที่ต้องการอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยได้แรงหนุนจาการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะผ่อนคลายกฎระเบียบในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เม็ดเงินลงทุนสุทธิที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF บิตคอยน์และอีเธอร์ในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับ 6.5 พันล้านดอลลาร์ และ 1.1 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ ซึ่งทำสถิติรายเดือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ความสนใจในอีเธอร์ ซึ่งเป็นเหรียญคริปโทฯ ที่ใหญ่ที่สุดรองจากบิตคอยน์นั้น สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนต้องการซื้อคริปโทฯ เพื่อเก็งกำไรหลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ปีนี้ โดยทรัมป์ให้คำมั่นสัญญาในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งว่าเขาจะผ่อนคลายกฎระเบียบในการควบคุมคริปโทฯ รวมทั้งทำให้สหรัฐฯ เป็น “เมืองหลวงแห่งคริปโทฯ ของโลก” และยืนยันว่าบิตคอยน์ทั้งหมดจะถูกขุดในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ กองทุน ETF อีเธอร์จำนวน 9 แห่งมีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิ 333 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 29 พ.ย. นำโดยกองทุน iShares Ethereum Trust ของบริษัท แบล็กร็อก อิงค์ (BlackRock Inc) และกองทุน Ethereum Fund ของบริษัท ฟิเดลิตี อินเวสต์เมนต์ส (Fidelity Investments)
ราคาบิตคอยน์ ซึ่งพุ่งขึ้นใกล้ระดับ 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้ว มีการซื้อขายที่ระดับ 97,880 ดอลลาร์ ณ เวลา 09.48 น.ตามเวลาสิงคโปร์ในวันนี้ (2 ธ.ค.) ขณะที่ราคาอีเธอร์มีการซื้อขายอยู่ที่ 3,730 ดอลลาร์
ข้อมูลจาก CoinGecko ระบุว่า มูลค่าตลาดคริปโทฯ พุ่งขึ้นราว 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ธ.ค. 67)
Tags: Cryptocurrency, ETF, กองทุน ETF, คริปโทเคอร์เรนซี, บิตคอยน์, อีเธอร์