บริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2563 ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 73 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลของ Refinitiv คาดไว้ที่ 70 เซนต์ ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 6.47 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 6.37 หมื่นล้านดอลลาร์
รายได้จากยอดขาย iPhone อยู่ที่ 2.644 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 20.7% เมื่อเทียบรายปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.793 หมื่นล้านดอลลาร์
รายได้จากยอดขาย iPad อยู่ที่ 6.8 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 6.12 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้จากยอดขาย Mac อยู่ที่ 9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 7.93 พันล้านดอลลาร์
ส่วนรายได้จากการบริการอยู่ที่ 1.455 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16.3% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.408 หมื่นล้านดอลลาร์
นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิล กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 4/2563 ได้รับแรงหนุนจากยอดขาย Mac และธุรกิจการบริการ ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกล่าวว่า แม้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงมีอยู่ แต่แอปเปิลยังสามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ iPhone ระบบ 5G
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารของแอปเปิลยังได้ประกาศการจ่ายเงินปันผลจำนวน 2.05 เซนต์ต่อหุ้น โดยจะจ่ายเงินปันผลดังกล่าวให้กับผู้ถือหุ้นในวันที่ 12 พ.ย.นี้ หลังจากปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 9 พ.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ต.ค. 63)
Tags: iPhone, Refinitiv, ทิม คุก, แอปเปิล อิงค์, ไอโฟน