ประธานของสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมนีออกโรงเตือนว่า ราคาสินค้าและบริการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกำลังสร้างแรงกดดันต่อแรงงานในประเทศ และอาจทำให้ข้อพิพาทเรื่องค่าแรงทวีความรุนแรงขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เยอรมนีเผชิญกับการหยุดงานประท้วงหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งส่งผลให้บริการต่าง ๆ ต้องหยุดชะงัก เช่น รถไฟ เครื่องบิน สถานรับเลี้ยงเด็ก ฯลฯ และซ้ำเติมปัญหาของประเทศให้ทวีความรุนแรงขึ้น ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ใกล้หยุดชะงัก
แฟรงก์ เวอร์เนเก ประธานสหภาพแรงงานแวร์ดี (Verdi) หนึ่งในสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ระบุว่า ราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นกำลังสร้างแรงกดดันต่อแรงงาน ขณะที่การขาดแคลนแรงงานและตำแหน่งงานว่างหลายแสนตำแหน่งยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับแรงงานในการเรียกร้องค่าจ้างที่สูงขึ้น
เวอร์เนเกกล่าวว่า ค่าแรงของคนขับรถบัส เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และพนักงานอื่น ๆ มักไม่เพิ่มขึ้นตามราคาสินค้าที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดข้อพิพาทเรื่องค่าแรงมากขึ้น
“การหยุดงานประท้วงเป็นส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย” เวอร์เนเกระบุ พร้อมเตือนบรรดานักการเมืองว่าอย่าพยายามด้อยค่าสิ่งนี้
การหยุดงานประท้วงกลายเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็มีการหยุดงานประท้วงของแรงงานในอุตสาหกรรมวิศวกรรมไฟฟ้าและโลหะ ซึ่งมีคนงานหลายล้านคน จนส่งผลกระทบต่อบริษัทหลายแห่ง เช่น ปอร์เช่ (Porsche) และบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) เป็นต้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ย. 67)
Tags: ค่าแรง, ราคาสินค้า, เยอรมนี, เศรษฐกิจเยอรมนี