“แอร์บัส” คาดจีนต้องการเครื่องบินใหม่จำนวนกว่า 9,500 ลำในช่วง 20 ปีข้างหน้า

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แอร์บัส (Airbus) คาดการณ์ว่า จีนจะต้องการเครื่องบินโดยสารและเครื่องบินสินค้าใหม่มากกว่า 9,500 ลำภายในช่วง 20 ปีข้างหน้า เนื่องจากการเติบโตที่แข็งแกร่งในด้านความต้องการเดินทางและขนส่งสินค้าทางอากาศ

รายงานแนวโน้มตลาดโลกฉบับล่าสุดของแอร์บัสคาดการณ์ว่า จีนต้องการเครื่องบินโดยสาร 9,330 ลำ และเครื่องบินสินค้า 190 ลำ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะครองส่วนแบ่งมากกว่า 20% ของความต้องการเครื่องบินโดยสารและเครื่องบินสินค้าทั้งหมดทั่วโลกในช่วงเดียวกัน

นอกจากนี้ แอร์บัสคาดการณ์ว่าการเดินทางทางอากาศต่อหัวจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยจำนวนเที่ยวบินต่อคนในจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 0.5 ในปี 2566 เป็น 1.7 ภายในปี 2586

ทั้งนี้ จีนกลายเป็นตลาดประเทศเดี่ยวขนาดใหญ่ที่สุดของแอร์บัส โดยสายการบินต่าง ๆ บนแผ่นดินใหญ่ของจีนใช้เครื่องบินของแอร์บัส 2,233 ลำ เมื่อนับถึงเดือนต.ค. 2567

แอร์บัสเน้นย้ำว่า การทดแทนเครื่องบินลำเก่าด้วยลำใหม่ที่ประหยัดเชื้อเพลิงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นกลายเป็นกระแสสำคัญในอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก ซึ่งการยกระดับเหล่านี้ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและสนับสนุนเป้าหมายสร้างความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการบิน

ศูนย์เทคโนโลยีวิศวกรรมแอร์บัส (ปักกิ่ง) บริษัท เจียไท่ แอร์คราฟต์ อิควิปเมนต์ จำกัด และบริษัทอื่น ๆ ซึ่งร่วมงานนิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติจีน หรือแอร์โชว์ ไชน่า ครั้งที่ 15 ในเมืองจูไห่ มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน ได้ตกลงร่วมพัฒนาเก้าอี้ที่นั่งบนเครื่องบินที่ทำจากใยมะพร้าวธรรมชาติ

ใยมะพร้าวเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบา อากาศถ่ายเทสะดวก และยืดหยุ่น จึงเป็นประโยชน์ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ซึ่งแอร์บัสเผยว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของการตกแต่งภายในเครื่องบิน ส่งเสริมการรีไซเคิล และเดินหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืนของภาคการบินพลเรือน

นอกจากนี้ แอร์บัสได้เสริมสร้างการดำเนินงานทางอุตสาหกรรมในจีนในปี 2567 และสร้างความก้าวหน้าอย่างมากในการผลิตและความร่วมมือใหม่ โดยแอร์บัสส่งมอบเครื่องบินตระกูลเอ320 ลำที่ 700 ซึ่งประกอบที่สายการประกอบขั้นสุดท้ายแห่งเอเชีย (FALA) ในเทศบาลนครเทียนจินทางตอนเหนือของจีนเมื่อเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการสร้างหมุดหมายสำคัญในความร่วมมือทางอุตสาหกรรมกับจีน

อนึ่ง แอร์บัส เทียนจิน ได้ส่งมอบเครื่องบินตระกูลเอ320 มากกว่า 750 ลำ ตระกูลเอ330 รวม 16 ลำ และตระกูลเอ350 รวม 24 ลำ แก่ลูกค้า เมื่อนับถึงสิ้นเดือนต.ค. 2567

สวี กั่ง ซีอีโอของแอร์บัส ไชน่า ชี้ว่าการเป็นหุ้นส่วนกับจีนคือตัวอย่างอันดีของความร่วมมือระหว่างจีนกับยุโรป โดยสายการประกอบขั้นสุดท้ายถือเป็นโครงการสำคัญและโดดเด่นมาก นับเป็นความสำเร็จยิ่งใหญ่ในจีนและมีอิทธิพลต่อทั่วโลก ทำให้เกิดการพัฒนาสายการประกอบขั้นสุดท้ายแห่งที่ 2 ในเทียนจิน ซึ่งเริ่มต้นในเดือนก.ย. 2566 และจะดำเนินงานภายในต้นปี 2569

แอร์บัสยังลงนามข้อตกลงหลายฉบับกับกลุ่มซัพพลายเออร์ของจีนหรือซัพพลายเออร์ต่างชาติที่ดำเนินงานในจีนในปี 2567 เกือบ 10 ราย ครอบคลุมตั้งแต่วัสดุจนถึงการประกอบระบบ โดยสวีกล่าวว่าอุตสาหกรรมการบินเชื่อมโยงผู้คน สินค้า การค้า และวัฒนธรรม โดยการค้าเสรีเป็นแหล่งพลังสำคัญที่ช่วยสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่โลก

ทั้งนี้ สวีเสริมว่า แอร์บัสจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการดำเนินงานในตลาดจีน และสร้างความเป็นหุ้นส่วนกับเหล่าบริษัทจีนที่มีการดำเนินงาน ความแข็งแกร่ง และความสามารถทางการแข่งขันที่เหมาะสม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ย. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top