“นูทริชั่น โปรเฟส” ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 37 ล้านหุ้นเข้า mai ใช้เป็นทุนหมุนเวียน

บมจ.นูทริชัน โปรเฟส (NUT) ผู้ประกอบการธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 37,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และจะนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

วัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุน 1. เงินทุนหมุนเวียนการพัฒนาผลิตสินค้าใหม่และประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของบริษัท 200 ล้านบาท โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 140 ล้านบาท เครื่องสำอาง กลุ่มดูแลส่วนบุคคล 20 ล้านบาท เครื่องสำอาง กลุ่มดูแลผิว 40 ล้านบาท และ 2. เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

NUT เริ่มต้นจากการขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ประเภทเสริมอาหารที่มีส่วนผสมของกลูตาไธโอน (Glutathione) บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคอลาเจน (Collagen) ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลคาร์นิทีน (L-carnitine) และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของซิงค์ (Zinc) แคลเซียม (Calcium) และฟิชออย (Fish Oil) บำรุงสุขภาพ เป็นต้น โดยจำหน่ายในคลีนิกเสริมความงามที่เป็นลูกค้าของบริษัท

เมื่อบริษัทประกอบธุรกิจเติบโตจึงต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง มีแนวคิดผลิตสินค้าเอง และขยายช่องทางการจำหน่าย โดยการนำเครื่องจักรที่ทันสมัยมาใช้ในกระบวนการผลิต ตลอดจนความพร้อมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตเสริมอาหาร 2 แห่งและเครื่องสำอาง 1 แห่ง

ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ประกอบด้วย

1. กลุ่มเสริมอาหาร (Food Supplement) แบ่งออกเป็น เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ (Health) เสริมอาหารเพื่อรูปร่างและสัดส่วน (Shape) และเสริมอาหารเพื่อเส้นผมและผิว (Hair&Skin)

2. กลุ่มเครื่องสำอาง (Cosmetic) แบ่งออกเป็น ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล (Personal Care) และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skin Care)

ในกลุ่มเสริมอาหารและเครื่องสำอางยังแบ่งการขายออกเป็นตราสินค้าของบริษัท (House Brand) ผลิตภัณฑ์ที่เป็นตราสินค้าร่วม (Co-Brand) บริษัทมีการร่วมลงทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กับบุคคลที่มีชือเสียง โดยทำการตลาดและขายร่วมกันภายใต้ตราสินค้าร่วมกันกับบริษัท และผลิตภัณฑ์ที่ขายร่วม (Co-Product) ภายใต้ตราสินค้าของบุคคลภายนอก

ณ วันที่ 17 มิ.ย.67 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 83,000,000 หุ้น โดยมีกลุ่มครอบครัวกิตติภานุวัฒน์ ถือหุ้นหลัก 80,000,000 หุ้น คิดเป็น 96.39% ภายหลังเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนลงเหลือ 66.65%

ผลประกอบการในช่วงปี 64-66 บริษัทมีรายได้รวม 934.95 ล้านบาท 870.14 ล้านบาท 1,182.32 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิ อยู่ที่ 75.19 ล้านบาท 39.78 ล้านบาท และ 69.99 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 67 มีรายได้รวม 575.25 ล้านบาท เทียบกับ 627.28 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 27.55 ล้านบาท เทียบกับ 43.84 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินทุนสำรองตามกฎหมายและทุนสำรองอื่น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top