GPSC แจงกำไร Q3/67 หดวูบ 46% ดีมานด์ใช้ไฟน้อยลง-โรง IPP ปิดซ่อมบำรุง-บาทแข็งทำขาดทุน FX

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/67 บริษัทฯ มีรายได้ทั้งสิ้น 20,912 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 770 ล้านบาท ลดลง 46% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/67 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าน้อยลงกว่าช่วงฤดูร้อน ประกอบกับ โรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) หยุดซ่อมบำรุงตามแผน

รวมทั้งค่าเงินบาทแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้การแปลงค่าลูกหนี้สัญญาเช่าทางการเงิน (อ้างอิงกับดอลลาร์สหรัฐฯ) ลดลง และเกิดขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนยังไม่เกิดขึ้นจริง

สำหรับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าเพิ่มขึ้น จากโครงการโรงไฟฟ้าไซยะบุรี (XPCL) มีผลประกอบการดีขึ้นจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้นตามปริมาณน้ำที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นตามฤดูกาล แม้ว่ามีการหยุดการผลิตชั่วคราว 17 วัน สาเหตุจากความแตกต่างของระดับน้ำด้านเหนือและท้ายโรงไฟฟ้าลดน้อยลงอย่างมาก

ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 67 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 3,063 ล้านบาท ลดลง 5% เมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนในปี 66 แม้ว่าผลการดำเนินงานหลักจะปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะโรงไฟฟ้า SPP ที่มีต้นทุนของก๊าซธรรมชาติและถ่านหินลดลงแม้ค่า Ft ลดลง รวมทั้งปริมาณการขายไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการรับรู้ผลการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 313 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงของลูกหนี้สัญญาเช่าทางการเงินของโรงไฟฟ้า เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม แม้ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ต้องเผชิญปัจจัยลบที่ไม่สามารถควบคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นอัตราแลกเปลี่ยน และภัยธรรมชาติ แต่บริษัทฯ ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพทั้งทางด้านภาคการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำรวมถึงการบริหารต้นทุนทางการเงินที่ยังแข็งแกร่ง เพื่อรองรับการเดินหน้าพัฒนาธุรกิจในระยะยาวตามแผนกลยุทธ์ 4S ได้แก่ S1 สร้างความแข็งแกร่งพร้อมขยายการให้บริการให้ธุรกิจหลัก (Strengthen and Expand the Core) S2 การพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน (Scale-Up Green Energy) S3 การลงทุนด้านนวัตกรรมจากธุรกิจใหม่ (New S-curve) และ S4 บริการโซลูชั่นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า (Shift to Customer-Centric Solutions) อย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย และตอบโจทย์ Net Zero Emissions ในปี 2603

สำหรับความก้าวหน้าการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศอินเดียของบริษัท อวาด้า เอนเนอร์ยี่ ไพรเวท จำกัด (Avaada Energy Private Limited) หรือ AEPL ที่ GPSC มีสัดส่วนถือหุ้น 42.93% ที่ได้รับสัมปทานการผลิตไฟฟ้าจากหน่วยงานรัฐบาลของอินเดีย รวมกำลังการผลิตทั้งสิ้นประมาณ 17,350 เมกะวัตต์ ส่วนการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน (CFXD) ปัจจุบันได้รับมอบงานจากผู้รับเหมา 95%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 67)

Tags: , ,
Back to Top