ทาคาฮิโระ โมริ รองประธานบริหารของบริษัทนิปปอน สตีล (Nippon Steel) ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า บริษัทหวังปิดข้อตกลงซื้อกิจการยูเอส สตีล (US Steel) มูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนม.ค. เนื่องจากการซื้อกิจการนี้มีความสำคัญต่อการเติบโตของบริษัทในอนาคต
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นิปปอน สตีล ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของโลกนั้นได้ตกลงที่จะซื้อกิจการของยูเอส สตีล เมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา แต่เผชิญกับการคัดค้านจากสหภาพแรงงานที่มีอิทธิพล รวมทั้งจากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์, ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พ.ย.นั้น ทรัมป์ได้เคยให้คำมั่นว่าจะระงับข้อตกลงดังกล่าว หากเขาชนะการเลือกตั้ง
“เราเชื่อว่าเราสามารถปิดดีลซื้อยูเอส สตีลได้ภายในสิ้นปีนี้ภายใต้รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบัน” ทาคาฮิโระ โมริ รองประธานบริหารของบริษัทนิปปอน สตีล และผู้เจรจาหลักในข้อตกลงนี้ได้กล่าวกับสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ (7 พ.ย.)
คณะกรรมการเพื่อการลงทุนในสหรัฐฯ (CFIUS) ได้ขยายเวลาพิจารณาข้อตกลงซื้อกิจการยูเอส สตีล มูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ออกไปจนถึงสิ้นเดือนธ.ค.นี้ โดยโมริกล่าวเมื่อวานนี้ว่า การพิจารณาของ CFIUS และหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดกำลังดำเนินไปอย่างเคร่งเครียด
“ตอนนี้การเลือกตั้งสหรัฐฯ ได้สิ้นสุดลงแล้ว และเราสามารถที่จะทำการหารือกันอย่างเหมาะสม ไม่มีเหตุผลที่ต้องเลื่อนกระบวนการพิจารณาอีกต่อไป” โมริกล่าวเสริม
ทั้งนี้เพื่อให้ข้อตกลงได้รับการอนุมัติ นิปปอน สตีลได้ให้คำมั่นด้านสวัสดิการสังคมและการลงทุนแก่ยูเอส สตีล และสหภาพแรงงานยูไนเต็ดสตีลเวิร์กเกอร์ส อีกทั้งยังให้สัญญาว่าจะขายหุ้นในกิจการร่วมค้าของโรงงานเหล็กแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ หากการเข้าซื้อกิจการนี้ประสบความสำเร็จ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 67)
Tags: Nippon Steel, US Steel, นิปปอน สตีล, ยูเอส สตีล