“ศิริกัญญา” ชี้คลังส่งผู้บริหารแผนฯ เพิ่ม-ซื้อหุ้นเพิ่มทุนเต็มสิทธิ หวังยึด THAI

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงกรณีที่กระทรวงการคลังส่งผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบมจ.การบินไทย (THAI) เพิ่มอีก 2 คนว่า จากที่มีความคืบหน้าของการปรับโครงสร้างหนี้การบินไทยหลังจากเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ มา 3-4 ปี ตอนนี้กำลังจะออกจากแผนแล้ว โดยเสนอแผนแปลงหนี้เป็นทุน และการลดทุน เพื่อพลิกการขาดทุนสะสมให้กำไรกลับมาเป็นบวก แผนแปลงหนี้เป็นทุนถูกยื่น filing ตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือลดทุน

โดย 8 พ.ย. นี้ เจ้าหนี้การบินไทยทั้งหลายจะต้องโหวตรับรองแผนฟื้นฟูฉบับแก้ไข เพื่อขอลดทุนเพื่อล้างหนี้สะสมซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่จู่ ๆ ในแผนที่จะแก้ กลับเพิ่มเรื่องขอเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟูอีก 2 คน รวมเป็น 5 คน 1 คนจากคลัง อีก 1 คนจากคมนาคม เพื่อกุมเสียงข้างมาก (ปัจจุบันตัวแทนจากคลังมี 1 คนคือ นายพรชัย ฐีระเวช ผอ.สศค.)

ทั้งนี้ คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูเป็นตัวแทนจากฝั่งเจ้าหนี้ ไม่ใช่ผู้ถือหุ้น รัฐบาลให้การบินไทยกู้ 12,800 ล้านจากยอดหนี้ 129,000 ล้าน หรือ 10% เท่านั้น แต่จะขอเป็นเสียงข้างมากในคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟู ดูจะเอาเปรียบเจ้าหนี้รายอื่นไปหน่อย ก่อนหน้านี้ที่เคยมีข่าวว่ารัฐบาลจะให้กู้เพิ่มตอนเข้าแผนฟื้นฟูใหม่ ๆ สุดท้ายก็ไม่ได้ให้เลยซักบาท มีอย่างเดียวที่ช่วยได้จนเกิดมรรคเกิดผลคือปลดการบินไทยจากสถานะ “รัฐวิสาหกิจ” ทำให้การบริหารคล่องตัวขึ้นมาก

นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่ากระทรวงคลังยังจะเอาเงินไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีกเพื่อให้ได้อำนาจควบคุมการบินไทยมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็จะซื้อไม่เกิน 50% ไม่ให้การบินไทยกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจ เงินก็ไม่ค่อยจะมี จะหาเงินจากไหนไปซื้อหุ้นหลายหมื่นล้านบาทได้ คงหนีไม่พ้นเงินภาษีที่เก็บไม่ค่อยจะได้แล้วอยู่แล้วทุกวันนี้

“รัฐบาลวางแผนยึดการบินไทย หลังกลับมากำไรต่อเนื่อง แม้ไม่เอากลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจ ส่งผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯเพิ่ม 2 คน กุมเสียงข้างมาก ซื้อหุ้นเพิ่มทุนเต็มสิทธิ์ ทั้ง ๆ ที่จัดเก็บรายได้ไม่เข้าเป้า

ในเมื่อเงินก็ไม่ค่อยจะมี อยู่แบบนี้ก็มีอำนาจควบคุมการบินไทยเพียงพอแล้ว ก็ไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรต้องซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีก หรือส่งผู้บริหารแผนเข้ามาเพิ่มอีก ถ้าคนในรัฐบาลไม่ได้เล็งเป้าผลประโยชน์อื่นๆ ที่อยู่ในการบินไทย…ฝากเจ้าหนี้การบินไทยช่วยกันโหวตไม่รับผู้บริหารแผนคนใหม่ด้วยค่ะ”

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 67)

Tags: , , , , ,
Back to Top